ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม
ผู้วิจัย นายพรเทพ อกศรี
ปีที่ทำวิจัย 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม 2) เพื่อสร้างรูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม
วิธีการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม 2) การสร้างการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการ โดยการศึกษาวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบความตรงและความเหมาะสมของรูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการ โดยการจัดประชาพิจารณ์ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทนครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองเครือข่าย และตัวแทนนักเรียน รวมจำนวนผู้เข้าร่วม ประชาพิจารณ์ 50 คน 3) การทดลองใช้การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียน ดำเนินการทดลองใช้การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนในโรงเรียนพังงูพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และ 4) ประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,065 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม พบว่า ปัญหาที่เกิดจากครูยังขาดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่สอน ครูยังใช้เทคนิคที่ไม่หลากหลาย ปัญหาด้านตัวนักเรียน คือ กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนยังไม่มีประสิทธิภาพ ปัญหาด้านสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ พบว่า สื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนยังมีน้อยไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนในการร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนรู้ยังมีน้อย ส่วนผลการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของไทย พบว่า เป้าหมายสำคัญ ของการจัดการศึกษาไทย คือ การจัดการเรียนรู้เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง และมีคุณภาพ แนวทางในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการของนักเรียน พบว่า การส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการของนักเรียน ต้องใช้กระบวนการที่ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และแนวทางในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพควรยึดหลักตามวัตถุประสงค์ของแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.25602579 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 และ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562
2. รูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม พบว่า มีความตรงและความเหมาะสมมาก โดยประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) การพัฒนาศักยภาพครู 2) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ 3) การพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ 4) การมีส่วนร่วมชุมชนในการจัดการศึกษา
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม พบว่า การพัฒนาศักยภาพครู ทำให้ครูมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนได้หลากหลาย โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ มีการพัฒนาและใช้สื่อประกอบการเรียนการสอน การนำกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนการสอน และสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้การพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษา ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติจริง นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนดและมีทักษะการคิดวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการนักเรียนโรงเรียนพังงูพิทยาคม อยู่ในระดับมาก