ชื่อเรื่อง : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่าน แบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวฉวีวัลย์ สิงสุธรรม ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ 2 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีการศึกษา : 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาคุณภาพของรูปแบบการเรียน การสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย (1)สร้างรูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับ การเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (2) ตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมของรูปแบบการเรียน การสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ (3) หาค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธี การอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และเพื่อใช้และศึกษา ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย (1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (2)เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนทดลองกับหลังทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3)เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กับเกณฑ์ร้อยละ 70
การวิจัยดำเนินการตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) การสร้างและหาคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนการสอน แบบประเมิน ความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน แบบวัดความสามารถในการอ่าน เชิงวิเคราะห์ 2) การใช้และศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ รูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ 2 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 33 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling)โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบทีแบบไม่อิสระ สถิติทดสอบทีแบบกลุ่มเดียวและค่าดัชนีประสิทธิผล ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการสร้างและหาคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า
1.1 รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบเมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งเรียนรู้และการวัดและประเมินผล โดยมีกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบ่งออกได้เป็น 7 ขั้นตอน ตาม PreSAS WhileCl PostSA Model คือ ก่อนการอ่าน (Pre-reading) ขั้นกระตุ้นความรู้เดิม (Stimulate original knowledge) ขั้นเพิ่มเติมแผนการอ่าน (Added reading plans) ขั้นชำนาญตั้งวัตถุประสงค์ (Set Objective) ระหว่างการอ่าน (While-reading) ขั้นตรวจสอบตรงความเข้าใจ (Check for Understanding) ขั้นเรียนรู้ได้ให้บูรณาการ (Integration) หลังการอ่าน (Post-reading) ขั้นสรุปผลและประเมินค่าผ่านคุณค่า (Summarize and Evaluated of reading) ขั้นนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในความคิด (Apply Knowledge) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6385
1.2 ผลการใช้และศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบ เมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถ ในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า
1.2.1 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบ เมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถ ในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
1.2.2 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบ เมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถ ในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
1.2.3 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนกลวิธีการอ่านแบบ เมตาคอกนิชันร่วมกับการเสริมต่อการเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถ ในการอ่านเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70