ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา

สำหรับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

สถานศึกษา โรงเรียนนาทรายวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี

ผู้วิจัย นางสุวพิชญ์ ภาวะชาติ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

รายงานการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 ที่ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล ตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเองรายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เปรียบเทียบทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การดำเนินการวิจัยมี 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การวิเคราะห์ (Analysis) โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนา (Design and Development) การดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1) การออกแบบรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง 2) การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน คู่มือการใช้รูปแบบ ฯ แผนการจัดการเรียนรู้ และเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ระยะที่ 3 การนำไปใช้ (Implementation) โดยการนำรูปแบบการเรียนการสอนไปทดลองใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยการจับสลาก เนื่องจากนักเรียนในโรงเรียนนาทรายวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี มีการจัดนักเรียนเข้า ชั้นเรียนแบบคละความสามารถกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามแบบสัมภาษณ์ สภาพปัจจุบันและปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในวิชาสุขศึกษา เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและเพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาเพื่อ เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง จำนวน 30 ข้อ ประกอบด้วย 4 ด้าน 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที t-test

ผลการวิจัยพบว่า

1. จากการสำรวจสภาพปัญหาและผลการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีผลการสำรวจพบว่า สาระสำคัญจากการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอน ทำให้ทราบปัญหาและความต้องการของผู้เกี่ยวข้องทั้งด้านครูผู้สอนและผู้เรียน ทำให้ได้ข้อมูลพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ที่สามารถนำไปเป็นแนวทางในการวางแผนเพี่อพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอนให้ตอบสนองความต้องการ ความสนใจ และความสามารถของผู้เรียน และเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพโดยใช้แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องแบบวิเคราะห์เอกสาร และแบบสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน พบว่า มีความสอดคล้อง ผลการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผลการสำรวจพบว่า ทักษะที่เป็นปัญหาสำหรับผู้เรียนมาก คือ ทักษะการดูแลสุขภาพตนเองมีการฝึกปฏิบัติน้อย ขาดความรู้ความเข้าใจและ แนวทางการปฏิบัติเพื่อดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและส่งผลต่อสุขภาพของนักเรียน

2. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.47/84.80 และมีมีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7718

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนด้วย รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเองรายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ทักษะการดูแลสุขภาพตนเองของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแลสุขภาพตนเอง รายวิชาสุขศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูสุวพิชญ์ : [19 มี.ค. 2566 เวลา 05:52 น.]
อ่าน [3093] ไอพี : 27.55.72.72
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,424 ครั้ง
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก

เปิดอ่าน 10,589 ครั้ง
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด

เปิดอ่าน 11,799 ครั้ง
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี

เปิดอ่าน 20,173 ครั้ง
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี

เปิดอ่าน 12,493 ครั้ง
ในอนาคตคาดว่าจะมีวิธีการประเมินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งผอ.-รองผอ.โรงเรียน มากกว่าการสอบข้อเขียนเพียงอย่างเดียว
ในอนาคตคาดว่าจะมีวิธีการประเมินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งผอ.-รองผอ.โรงเรียน มากกว่าการสอบข้อเขียนเพียงอย่างเดียว

เปิดอ่าน 16,652 ครั้ง
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน

เปิดอ่าน 58,934 ครั้ง
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive

เปิดอ่าน 23,873 ครั้ง
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013

เปิดอ่าน 4,265 ครั้ง
ไฟฟ้ามาจากไหน ใช้อะไรในการผลิต
ไฟฟ้ามาจากไหน ใช้อะไรในการผลิต

เปิดอ่าน 26,036 ครั้ง
สพฐ.เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 6 เรื่อง
สพฐ.เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 6 เรื่อง

เปิดอ่าน 11,990 ครั้ง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น

เปิดอ่าน 10,020 ครั้ง
ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว
ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว 'ไอแพด มินิ' จอกว้าง 7.9 นิ้ว

เปิดอ่าน 13,150 ครั้ง
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ

เปิดอ่าน 48,725 ครั้ง
ระบบสุริยะจักรวาล
ระบบสุริยะจักรวาล

เปิดอ่าน 49,321 ครั้ง
ความเชื่อเกี่ยวกับแมวดำ
ความเชื่อเกี่ยวกับแมวดำ

เปิดอ่าน 10,968 ครั้ง
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
เปิดอ่าน 15,935 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ
เปิดอ่าน 32,412 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
สรรพคุณทางยาของ "ผักแขยง"
เปิดอ่าน 19,887 ครั้ง
ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 13,613 ครั้ง
ถึงเป็น"หนี้"แต่ก็มีเงินเก็บ
ถึงเป็น"หนี้"แต่ก็มีเงินเก็บ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ