บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102 และ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 4 ห้องเรียน จำนวน 158 คน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 38 คน โดยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม (cluster sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102 จำนวน 8 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา
ท31102 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา
ท31102 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) มีประสิทธิภาพ 84.86 /86.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท31102 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.56 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.48 ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด