ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฎจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึ

วิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร,ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฎจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษา-ปีที่ 3 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเดื่อศรีไพรวัลย์ จังหวัดสกลนคร จำนวน 2 ห้องเรียน รวม 59 คน ซึ่งจัดห้องเรียนแบบคละความสามารถ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเดื่อศรีไพรวัลย์ ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ สถิติ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Independent Sample)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า

สภาพการจัดกิจกรรมการสอนคณิตศาสตร์ของครูชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมปฏิบัติอยู่ในระดับ ปานกลาง และพบว่าการสอนโดยยึดเนื้อหาเป็นสำคัญ และพยายามสอนให้จบเนื้อหา ครูสอนให้นักเรียนจำสูตร หลักการและวิธีการปฏิบัติ การสอนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลายมีน้อย สำหรับปัญหาในการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เป็นปัญหาของครูโดยคือ 1) ครูขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน 2) ครูขาดนวัตกรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และ 3) ครูขาดการพัฒนาเทคนิคการสอนแบบใหม่ ๆ ส่วนปัญหาที่เกิดจากนักเรียนโดยภาพรวม คือ1) นักเรียนมีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ต่ำมาจากโรงเรียนเดิม 2) นักเรียนขาดความรับผิดชอบขาดระเบียบวินัยไม่กล้าแสดงออกและ 3) นักเรียนขาดความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์

ความต้องการของครูในการแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ 1) ต้องการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่ทันสมัย 2) ต้องการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหัวข้อใหม่ ๆ อย่างหลากหลายโดยเน้นให้สามารถนำไปใช้ได้จริงและ 3) ต้องการสื่อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ทันสมัย เหมาะสมและเพียงพอ ข้อเสนอแนะของครูผู้สอนในการแก้ปัญหาจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ คือ 1) ครูควรใช้นวัตกรรมการสอนทั้งสื่อและเทคนิคการสอนประกอบการสอน เพื่อให้นักเรียนสนใจเข้าใจในหน่วยการเรียนสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น 2) ควรจัดให้มีการอบรมเพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้เรื่องเทคนิคการสอน วิธีการและเทคนิคการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรอบรมวิธีการสอนแบบต่าง ๆ 3) ควรจัดให้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเครื่องมือวัดผล การสร้างข้อสอบมาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อสอบ การจัดทำคลังข้อสอบ วิธีปฏิบัติในการประเมินผล

ปัญหาในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน คือ 1) ครูสอนจริงจัง ไม่ใช้สื่อในการสอน ให้ทำแบบฝึกหัด ส่งทุกครั้ง ทำให้เครียด ข้อสอบยากเกินไป 2) ครูเข้มงวดในการสอนทำให้บรรยากาศในการเรียนเครียด ครูไม่ใช้สื่อการสอนเพื่อช่วยให้เข้าใจและ3) ครูสอนเร็วมากไม่น่าสนใจ นักเรียนตามไม่ทัน จึงเรียนไม่รู้เรื่องและไม่อยากเรียน

ความต้องการของนักเรียนในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อย่างมีความสุข คือ 1) ครูควรมีสื่อ การสอนที่หลากหลายเพื่ออธิบายเนื้อหาวิชาให้เข้าใจ 2) ครูควรสร้างบรรยากาศในการเรียนให้สนุกสนาน 3) ควรมีวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายจะทำให้ไม่น่าเบื่อ

การทดสอบวัดสมรรถภาพทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ด้านความรู้ความเข้าใจ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และด้านความสามารถในการแก้ปัญหา ตามลำดับ

2. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลการประเมินประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1) ได้ค่าประสิทธิภาพ 86.36 และผลการประเมินประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) ได้ค่าประสิทธิภาพ 84.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ 80/80

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า หลังเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร, ความคล้ายและวงกลม โดยจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) กับการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (x̄ = 4.56 , S.D. = 0.49)

โพสต์โดย sakuna : [26 ก.พ. 2566 เวลา 13:05 น.]
อ่าน [64730] ไอพี : 124.122.17.171
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,748 ครั้ง
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน

เปิดอ่าน 26,240 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

เปิดอ่าน 14,954 ครั้ง
 8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010
8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010

เปิดอ่าน 12,023 ครั้ง
ดูกันหรือยัง "กังนัม สไตล์" Original
ดูกันหรือยัง "กังนัม สไตล์" Original

เปิดอ่าน 16,624 ครั้ง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง

เปิดอ่าน 12,018 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี

เปิดอ่าน 76,613 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ เคลียร์ คัด ชัดเจน ตอน "โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล" โดย ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.
รับชมย้อนหลัง รายการ เคลียร์ คัด ชัดเจน ตอน "โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล" โดย ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.

เปิดอ่าน 19,665 ครั้ง
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ

เปิดอ่าน 24,614 ครั้ง
ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม

เปิดอ่าน 32,413 ครั้ง
เกลือในทะเล มาจากไหน?
เกลือในทะเล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 10,969 ครั้ง
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒

เปิดอ่าน 17,813 ครั้ง
แบ่งเกรดมหาลัย ความรวดร้าวของบัณฑิตจบใหม่
แบ่งเกรดมหาลัย ความรวดร้าวของบัณฑิตจบใหม่

เปิดอ่าน 10,807 ครั้ง
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์

เปิดอ่าน 34,554 ครั้ง
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล

เปิดอ่าน 189,689 ครั้ง
ระบบข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับข้าราชการ สำหรับตรวจสอบวันเดือนปีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ระบบข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับข้าราชการ สำหรับตรวจสอบวันเดือนปีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เปิดอ่าน 13,433 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
เปิดอ่าน 12,078 ครั้ง
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
เปิดอ่าน 44,531 ครั้ง
การเขียนเรื่องสั้นเบื้องต้น
การเขียนเรื่องสั้นเบื้องต้น
เปิดอ่าน 14,955 ครั้ง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
เปิดอ่าน 22,892 ครั้ง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ