ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของ
โรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่
ชื่อผู้วิจัย : ว่าที่ร้อยตรีวงศ์เทวัญ ณ ลำพูน
โรงเรียน : โรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง
ปีที่วิจัย : 2564
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสำรวจสภาพปัจจุบันและความต้องการการบริหารแบบ มีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ 2) เพื่อออกแบบและสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ แบ่งขั้นตอนการวิจัยเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 สำรวจสภาพปัจจุบันและความต้องการการมีส่วนร่วมในการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง โดยการสอบถามพนักงานครู จำนวน 14 คน พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ดูแลเด็ก) จำนวน 1 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 132 คน รวมทั้งสิ้น 154 คน ระยะที่ 2 ออกแบบและสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง โดยตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา โดยพิจารณาคัดเลือกมาจากผู้บริหารสถานศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าระดับเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการบริหารโรงเรียนไม่ต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 11 ท่าน ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง ประเมินประสิทธิผลการบริหารสถานศึกษาโดยการสอบถามพนักงานครู จำนวน 14 คน พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ดูแลเด็ก) จำนวน 1 คน รวม 15 คน ตรวจสอบร้อยละของนักเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับดีขึ้นไป (3) ระหว่างปีการศึกษา 2563 และปีการศึกษา 2564 ระยะที่ 4 ประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สอบถามความพึงพอใจพนักงานครู จำนวน 14 คน พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ดูแลเด็ก) จำนวน 1 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 132 คน รวมทั้งสิ้น 154 คน ที่มีต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพปัจจุบันของการมีส่วนร่วมของพนักงานครู พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ดูแลเด็ก) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ในการบริหารสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ ทั้งโดยรวมและรายฝ่ายอยู่ในระดับปานกลาง ความต้องการของการมีส่วนร่วมของพนักงานครู พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ดูแลเด็ก) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ทั้งโดยรวมและรายฝ่ายอยู่ในระดับมาก
2. รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ มีองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน คือ ด้านวัตถุประสงค์ ด้านระบบงานและกลไก ด้านหลักการของรูปแบบ และด้านวิธีการดำเนินงาน ทุกด้านมีความเหมาะสม และความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่า ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง โดยรวมอยู่ในระดับมาก และร้อยละของนักเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับดีขึ้นไป (3) จำแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และต่ำกว่าปีการศึกษา 2563 จำนวน 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่า พนักงานครู พนักงานจ้างตามภารกิจ (ผู้ดูแลเด็ก) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจ ต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาลวัดหมื่นเงินกอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยรวมอยู่ในระดับมาก