ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิค WATKOM MODEL เพื่อพัฒนาพื้นฐานทักษะทางวิทยาศาสตร์ ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3

กิจกรรมที่1 การทดลองสีจากธรรมชาติ

เรื่องผักสีเขียว ใบเตย

สาระสำคัญ : ผักมีหลายชนิดแต่ละชนิดมีสีสันต่างๆ กัน

จุดประสงค์

1. เด็กทำกิจกรรมการทดลอง เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน (มฐ. 9,12)

1.1 ทักษะการสังเกต : เด็กบอกน้ำสีที่ได้จากวิธีการสกัดจากใบเตยได้

1.2 ทักษะการจำแนกประเภท :เด็กจำแนกและบอกความแตกต่างของน้ำสีที่ได้จากการทดลองทั้ง3วิธีได้

1.3 ทักษะการลงความเห็นข้อมูล : เด็กลงความเห็นข้อมูลและสรุปผลจากวิธีการทดลอง 3 วิธีได้

: เด็กบอกประโยชน์ของน้ำสีที่สกัดจากใบเตยได้

1.4. ทักษะการสื่อความหมาย : เด็กอธิบายคำตอบหรือข้อค้นพบจากการสังเกต ทดลอง และบันทึกผล

จากการทดลองได้

2. เด็กทำกิจกรรมการทดลองสกัดสีจากใบเตยด้วยเทคนิคWATKOM MODELเพื่อหาคำตอบตามวิธีที่เลือกไว้

สื่อและอุปกรณ์

1. ใบเตย 30 ชิ้น 5. กะละมัง 1 ใบ

2. กระชอน 3 อัน 6. แก้วน้ำ 6 ใบ

3. ครกไม้พร้อมสาก 1 คู่ 7. แว่นขยาย 6 อัน

4. น้ำเปล่า 3 ขวด 8. ถุงพลาสติกพร้อมไม้ทุบ 1 ชุด

การดำเนินกิจกรรม

1.ขั้นสร้างความต้องการที่จะเรียนรู้ (W)

1.1 เด็กฟังปริศนาคำทาย : ผักอะไรเอ๋ย ใบสีเขียว มีกลิ่นหอม ไว้ใส่ในขนมหวาน (ใบเตย)

1.2 เด็กเล่าถึงประสบการณ์เดิมที่เกี่ยวกับลักษณะ/สีของใบเตยที่เด็กรู้จัก

1.3 อาสาสมัครเด็กวาดรูปใบเตยที่เคยเห็นบนกระดานไวท์บอร์ด

2. ขั้นกิจกรรมการทดลอง (A)

2.1 เด็กร่วมกันสังเกตใบเตยเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะ สี กลิ่น ขนาด ลักษณะและส่วนประกอบต่างๆ ที่ครูนำมาให้เด็กร่วมกันสังเกต

2.2 เด็กตอบคำถาม ที่ครูกระตุ้นให้เด็กคิด แล้วเข้ากลุ่มเพื่อเลือกใช้วิธีการทดลองสกัดสีจากใบเตย

- ใบเตยที่ใช้ทดลองมีลักษณะเป็นอย่างไร

- เด็กจะใช้วิธีการทดลอง แบบใดบ้าง

- เด็กคิดว่า สีที่ได้จากการทดลองทั้งหมดจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

2.3 เด็กฟังครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทดลองและสาธิตวิธีการขั้นตอนการทดลอง ดังนี้

การทดลองแบบที่ 1 การขยำ

1. นำใบเตยที่หั่นแล้ว 10 ชิ้น ใส่กะละมังใช้มือขยำจนทุกใบละเอียด

2. เทน้ำลงไปใช้ช้อนคนให้เข้ากัน

3. เทใส่กระชอนเพื่อกรองเอากากออก

การทดลองแบบที่ 2 การตำ

1. นำใบเตยที่หั่นแล้ว 10 ชิ้น ใส่ครกไม้ตำให้ละเอียด

2. นำใบเตยที่ตำแล้วใส่ในแก้วน้ำแล้วเทน้ำลงไปครึ่งแก้ว ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน

3. เทใส่กระชอนเพื่อกรองเอากากออก

การทดลองแบบที่ 3 การทุบ

1. นำใบเตยที่หั่นแล้ว 10 ชิ้น ใส่ถุงพลาสติกแล้วใช้ไม้ทุบจนเกิดสี

2. นำใบเตยที่ทุบแล้วใส่ในแก้วน้ำ

3. แล้วเทน้ำเปล่าใส่ลงไปสักครึ่งแก้ว

4. ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน

5. เทน้ำในแก้วใส่กระชอน เพื่อกรองเอากากของใบเตยออกจนหมด

2.4 เด็กแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มๆละเท่าๆ ตามความสมัครใจ โดยวิธีการดังนี้

2.4.1 สร้างข้อตกลงว่ากลุ่มใดจะทำการทดลองแบบไหน ( จากที่เลือกไว้ การขยำ การตำ การทุบ )

2.4.2 เด็กแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมารับวัสดุ - อุปกรณ์ในการทดลอง ที่ครูจัดเตรียมไว้

2.5 เด็กแต่ละกลุ่ม ช่วยกันทดลองใช้วิธีสกัดสีจากใบเตยตามขั้นตอนของวิธีการที่กลุ่มเลือกไว้ โดยครูดูแลให้คำแนะนำ

3. ขั้นสนทนา อธิบาย (T)

3.1 เด็กแต่ละกลุ่มผลัดกันออกมานำเสนอผลการทดลองการสกัดสีของใบเตยโดยช่วยกันอธิบายจากการสังเกตและบันทึกไว้ โดยครูคอยช่วยชี้แนะเมื่อเด็กต้องการ

3.2 เด็กสนทนาร่วมกับครู เพื่อลงความเห็นสรุปข้อมูลจากวิธีการทดลองในการสกัดสีใบเตยทุกแบบโดยครูใช้คำถามนำกระตุ้นให้คิดดังนี้

- เด็กคิดว่า "ใบเตยที่กลุ่มนำมาใช้ทดลองมีสีลักษณะใด " "สีเหมือนหรือต่างไปจากเดิม หรือไม่ อย่างไร"

- เด็กสรุปได้ไหมว่า "สีของน้ำแต่ละแก้ว มีสีเหมือนหรือต่างกัน อย่างไร

4. ขั้นเก็บความรู้เพิ่มเติม (K)

4.1 เด็กแต่ละกลุ่มเก็บความรู้เพิ่มเติมโดยทำกิจกรรมตามวิธีที่ตกลงร่วมกัน คือ ให้เด็กใช้พู่กัน จุ่มน้ำสีจากใบเตยที่สกัดได้จากทุกกลุ่ม นำมาระบายสีลงแบบฝึกทักษะที่ครูออกแบบไว้

5. ขั้นแสดงความคิดเห็น (O)

5.1 เด็กสนทนาร่วมกับครู เพื่อแสดงความคิดเห็นจากข้อมูลที่ได้จากผลการทดลองสกัดสีใบเตย ทุกแบบ

โดยครูถามนำว่า "เราจะใช้วิธีใด ที่จะรู้ว่า น้ำของสีจะเหมือนกันหรือแตกต่างกัน "

5.2 เด็กช่วยกันบอกวิธีการจำแนกความเข้มของน้ำสีที่ได้จาก 3 วิธีการสกัดที่แตกต่างกัน โดยครูกระตุ้นให้เด็กหาวิธีการแล้ว ตกลงกันว่า จะเลือกใช้วิธีใด

6.ขั้นสรุปเนื้อหา (M)

6.1 เด็กและครูร่วมกันสนทนาสรุปผลการทดลองที่ได้ โดยให้เด็กตอบคำถาม ที่ครูใช้ ถามเพื่อสรุปเนื้อหา ดังนี้

- น้ำสีที่สกัดได้จาก 3 วิธี มีสีเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

- เด็กๆคิดว่า มีวิธีการอื่นๆ ที่จะนำมาใช้สกัดสีจากใบเตยได้อีกบ้าง

- เด็กๆคิดว่า น้ำสีจากใบเตยที่สกัดได้ จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง

การประเมินผล

สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ที่ได้จากการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็ก

ขณะการทำกิจกรรมในขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

1. เด็กบอกน้ำสีที่ได้จากวิธีการสกัดจากใบเตยได้ (ทักษะการสังเกต)

2. เด็กจำแนกและบอกความแตกต่างของน้ำสีที่ได้จากการทดลองทั้ง3วิธีได้ (ทักษะการจำแนกประเภท)

3. เด็กลงความเห็นข้อมูล สรุปผลจากวิธีการทดลอง 3 วิธีและบอกประโยชน์ของน้ำสีที่สกัดจากใบเตยได้(ทักษะการลงความเห็นข้อมูล)

4. เด็กอธิบายคำตอบหรือข้อค้นพบจากการสังเกต ทดลอง และบันทึกผลการทดลองได้ (ทักษะการสื่อความหมาย)

โพสต์โดย วรรณนิภา : [23 ก.พ. 2566 เวลา 09:09 น.]
อ่าน [3357] ไอพี : 101.109.255.11
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,401 ครั้ง
สุดยอดโปรแกรมตรวจสอบสเปคคอมพิวเตอร์ ปี 2012
สุดยอดโปรแกรมตรวจสอบสเปคคอมพิวเตอร์ ปี 2012

เปิดอ่าน 13,645 ครั้ง
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์

เปิดอ่าน 12,710 ครั้ง
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด

เปิดอ่าน 27,872 ครั้ง
สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop
สอนทำ header hi5 ด้วย photoshop

เปิดอ่าน 18,462 ครั้ง
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 14,256 ครั้ง
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว

เปิดอ่าน 37,538 ครั้ง
ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี

เปิดอ่าน 20,756 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"

เปิดอ่าน 13,423 ครั้ง
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ

เปิดอ่าน 13,892 ครั้ง
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ

เปิดอ่าน 22,715 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์

เปิดอ่าน 11,254 ครั้ง
A Systems Approach for Developing Technological Literacy
A Systems Approach for Developing Technological Literacy

เปิดอ่าน 6,718 ครั้ง
อาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
อาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

เปิดอ่าน 9,991 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

เปิดอ่าน 384,973 ครั้ง
ปรัชญาและคุณธรรมสำหรับครู และลักษณะครูที่ดี
ปรัชญาและคุณธรรมสำหรับครู และลักษณะครูที่ดี

เปิดอ่าน 8,057 ครั้ง
ราชภัฏกับธนาคาร
ราชภัฏกับธนาคาร
เปิดอ่าน 19,917 ครั้ง
ปลูกเมล่อนหน้าแล้ง
ปลูกเมล่อนหน้าแล้ง
เปิดอ่าน 59,317 ครั้ง
หนังสือดี 100 เล่ม ที่ควรอ่าน-มีไว้ในห้องสมุด
หนังสือดี 100 เล่ม ที่ควรอ่าน-มีไว้ในห้องสมุด
เปิดอ่าน 8,046 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน
ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน
เปิดอ่าน 4,736 ครั้ง
เครื่องหมาย ฯลฯ (ไปยาลใหญ่ หรือ เปยยาลใหญ่)
เครื่องหมาย ฯลฯ (ไปยาลใหญ่ หรือ เปยยาลใหญ่)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ