ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ผลงานวิชาการ เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เเบบร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) ภาคทฤษฎี+ภาคปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 - 5/3 เรื่อง กรด-เบส

ชื่อเรื่อง เรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI

(Team Assisted Individualization) (ภาคทฤษฎี+ภาคปฏิบัติ)

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1-5/3 เรื่อง กรด – เบส

ชื่อผู้วิจัย นางสาวดลฤดี ปัสสา

โรงเรียน มหรรณพาราม

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การนำเทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ผสมผสานระหว่างการเรียนแบบร่วมมือ (Cooperrative Learning) และการสอนรายบุคคล (Individualization Instruction) เข้าด้วยกัน เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการกลุ่มให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์และเกิดความสำเร็จกันของกลุ่ม ผู้สอนจะต้องพยายามใช้กลยุทธ์วิธีให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการประมวลสิ่งที่มาจากการทำกิจกรรมต่างๆ จัดระบบความรู้สรุปเป็นองค์ความรู้ด้วยตนเองเป็นหลักการสำคัญ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนวิชาเคมี โดยใช้กลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 – 5/3 โรงเรียนมหรรณพาราม แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 90 คน รวบรวมข้อมูลโดยสร้างแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ การทำ pretest – posttest ใช้สถิติในการวิจัยโดยการหาค่าร้อยละ ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) และแบบวัดเจตคติ โดยเก็บข้อมูลในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 10 สัปดาห์ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมี 3 (ว32222) เรื่อง กรด – เบส โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.73 และหลังเรียน ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 19.66 ผลต่างของคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 10.92 คิดเป็นร้อยละ 36.40

ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) วิชาเคมี 3 (ว32222) เรื่อง กรด – เบส ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.5136 แสดงว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 51.36 เจตคติต่อวิชาเคมี ก่อนเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ วิชาเคมี 3 (ว32222) เรื่อง กรด – เบส ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.87 และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.43 ผลต่างของคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 4.57 คิดเป็นร้อยละ45.67

การเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) เป็นการจัดกิจกรรมที่เน้นกระบวนการกลุ่ม ความร่วมมือของกลุ่ม คะแนนการทำใบงาน ใบกิจกรรมต่างๆ ระหว่างเรียนของกลุ่ม จะนำมาหาค่าเฉลี่ยและเป็นคะแนนของสมาชิกกลุ่มนั้นๆ นักเรียนจึงช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ จึงทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบนี้มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน การเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ TAI (Team Assisted Individualization) เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนในกลุ่ม มีกิจกรรมร่วมกัน ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการเรียน ส่งผลให้นักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนวิชาเคมีสูงขึ้น

โพสต์โดย ดล : [23 ก.พ. 2566 เวลา 06:50 น.]
อ่าน [3308] ไอพี : 49.230.141.133
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,474 ครั้ง
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย

เปิดอ่าน 29,116 ครั้ง
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)

เปิดอ่าน 25,667 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?

เปิดอ่าน 9,513 ครั้ง
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด

เปิดอ่าน 16,395 ครั้ง
กล้วยป่า
กล้วยป่า

เปิดอ่าน 262,311 ครั้ง
มาตรฐานวิชาชีพครู
มาตรฐานวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 15,994 ครั้ง
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.

เปิดอ่าน 52,216 ครั้ง
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี

เปิดอ่าน 8,098 ครั้ง
ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก
ยัน"เขื่อนศรีฯ"ยังรับน้ำได้อีก

เปิดอ่าน 16,317 ครั้ง
รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC
รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC

เปิดอ่าน 268,853 ครั้ง
Pronouns  ( คำสรรพนาม )
Pronouns ( คำสรรพนาม )

เปิดอ่าน 16,213 ครั้ง
เทคนิคการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้
เทคนิคการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้

เปิดอ่าน 62,539 ครั้ง
คณิตศาสตร์ง่ายๆแต่แปลกดีแท้
คณิตศาสตร์ง่ายๆแต่แปลกดีแท้

เปิดอ่าน 59,809 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย

เปิดอ่าน 1,308 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 15,239 ครั้ง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 31,736 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
เปิดอ่าน 37,748 ครั้ง
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
เปิดอ่าน 68,784 ครั้ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
เปิดอ่าน 89,335 ครั้ง
หลักการใช้ Verb to have
หลักการใช้ Verb to have

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ