การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนประทาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) คู่มือการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 6) แบบประเมินรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์เอกสาร
สรุปผลการวิจัย
1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้
1.1 สภาพการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.29 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.61 และสภาพการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มที่ 6 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.34 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.51
1.2 ความต้องการในการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่า ต้องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ซึ่งทำได้โดยการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ การฝึกทักษะในการคิดแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ผ่านการเผชิญกับเหตุการณ์ สถานการณ์หรือปัญหาด้วยตนเอง กำหนดเรื่องจากใกล้ตัวมองเห็นภาพชัดเจน ให้กับนักเรียนครูเป็นผู้มีบทบาทในการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการผู้เรียนมีส่วนร่วม รวมถึงการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา
1.3 หลักการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า หลักการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ควรจัดกิจกรรมการใช้โดยการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ผ่านการเรียนรู้โดยการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา เน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการโดยครูเป็นผู้มีบทบาทในการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ค้นพบความรู้ สร้างความรู้ด้วยตนเอง และการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง
1.4 การศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการสอน มีองค์ประกอบที่เหมาะสมและสอดคล้อง นำมาพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สำคัญ คือ แนวคิดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ แนวคิดการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย องค์ประกอบที่ 1 องค์ประกอบที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานแนวคิดทฤษฎี องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 กิจกรรมการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 4 ระบบทางสังคม องค์ประกอบที่ 5 สิ่งอำนวยความสะดวก และองค์ประกอบที่ 6 การวัดและประเมินผล และจากการศึกษาแนวคิดทฤษฎีการสอนคณิตศาสตร์ ได้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อมและทบทวนความรู้เดิม (preparing and review) ขั้นที่ 2 กำหนดประเด็น (mode concept) ขั้นที่ 3 สืบเสาะแสวงหาความรู้ (ascertain) ขั้นที่ 4 สร้างความรู้ร่วมกัน (to construct ) และ ขั้นที่ 5 เกิดความรู้ชั้นสูง (high knowledge)
2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้
2.1 รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.70 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.46
2.2 ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.79 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.30
2.3 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ทดลองใช้กับนักเรียนแบบเดี่ยว (1:1) จำนวน 3 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับ 70.33/70.00 แบบกลุ่ม (1:10) จำนวน 9 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับ 76.30/74.81 แบบภาคสนาม 1:100 จำนวน 30 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับมีค่าเท่ากับ 76.78/75.78 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75
3. ผลการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้
3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 78.28/77.17
3.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ของนักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผลการเปรียบเทียบผลการวัดความสามรถในการคิดแก้ปัญหา ของนักเรียนที่ได้จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการรู้ตามรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.74 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.44
4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ P-Math model เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.40 ซึ่งผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ โดยรวม ผ่าน