ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนการสอนพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด 19) โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความ

ชื่อวิจัย การวิจัยเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนการสอนพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

(โควิด 19) โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความ

ผู้วิจัย นางสาวนฤมล ศิริธีรกุล

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง

สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่วิจัย 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนการสอนพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด 19) โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย คือ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ในการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนย่อความ และ2) เพื่อศึกษาความสามารถในการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 326 คน ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/9 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 38 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จัดการเรียนการสอนรูปแบบ On Site, Online และ On Hand เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเขียนย่อความและแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกการเขียนย่อความ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ เกณฑ์ประสิทธิภาพมาตรฐาน 80/80 การหาค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC การหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ค่าเฉลี่ย (¯("x" )) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่า t - test แบบ dependent การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ทั้งข้อมูลเชิงคุณภาพและข้อมูลเชิงปริมาณ

ผลการวิจัย

1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.20/84.78 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ สามารถนำไปใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนได้

2. ผลการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

2.1 วงจรที่ 1 พบว่า ผู้สอนไม่มีเทคนิควิธีสอนในการกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเขียนย่อความ และไม่ได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเขียนย่อความให้ผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ ผู้เรียนมีทักษะการเขียนย่อความน้อย ขาดเรียนบ่อย และผู้สอนจำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนรูปแบบ On Site, On Line และ On Hand ผู้สอน ผู้ปกครอง และผู้บริหารสถานศึกษา ตกลงร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน ผู้สอนนำข้อเสนอแนะจากแผนที่ผ่านมาทั้งของผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงแผน และเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป นอกจากนี้ ช่วงเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไม่เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรม คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ ผู้เรียนมีคะแนนผลการเรียนอ่อน ควรมีการปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนย่อความในวงจรต่อไป ผู้เรียนบางคนเขียนย่อความไม่เก่ง ผู้สอนจึงต้องคอยเน้นย้ำถึงวิธีการเขียนย่อความทุกครั้ง ผู้สอนต้องปรับลดใบกิจกรรมให้ง่ายขึ้น ปรับเนื้อเรื่องที่ต้องการย่อความให้กระชับสั้นลง และปรับปรุงเนื้อหาที่จะย่อความให้หมาะสมกับวัยของผู้เรียนมากขึ้น เพื่อผู้เรียนจะสามารถเขียน และเขียนย่อความได้ดีขึ้น เกิดแรงกระตุ้นให้รักการเขียนมากขึ้น

2.2 วงจรที่ 2 การจัดการเรียนรู้พัฒนาความสามารถในการเขียนย่อความของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ผู้เรียนสามารถเขียนส่วนที่เป็นคำนำ เป็นส่วนที่เขียนในย่อหน้าแรก เพื่อให้ผู้อ่านทราบที่มาของเรื่อง ว่าเป็นเรื่องประเภทใด ได้ ผู้เรียนสามารถเขียนย่อความส่วนที่เป็นใจความสำคัญของเรื่อง โดยนำเนื้อหามาเรียบเรียงแล้วเขียนให้เป็นย่อหน้าเดียว และ ผู้เรียนสามารถทำแบบทดสอบทักษะการเขียนย่อความได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 83.87ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 80 นอกจากนี้ยังพบพว่า สำหรับผู้เรียนบางคนที่เขียนย่อความได้ช้า เมื่อผู้สอนให้เวลากับผู้เรียนกลุ่มนี้มากขึ้นและคอยให้กำลังใจ คอยเสริมแรงให้มีกำลังใจในการอ่านและการเขียนย่อความมากขึ้น และให้การบ้านไปฝึกอ่านและเขียนย่อความในตอนเย็น โดยขอให้ผู้ปกครองร่วมเสริมแรงช่วยดูแลลูกในขณะทำการบ้านที่บ้านอย่างใกล้ชิด ผลการปฏิบัติที่ได้แก้ไขของผู้เรียนกลุ่มนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ส่วนความสามารถในการเขียนย่อความของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเขียนย่อความของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยที่ค่าทีสแต็ด (t-Stat) สูงกว่าค่าทีคริติคอลทูเทลส์ (t-Critical two tails) ส่วนพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียน พบว่า ในช่วงแรก ๆ มีผู้เรียนบางคน ไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าที่ควร แต่เมื่อผู้สอนเสริมแรง ทำให้ผู้เรียนมีความสนใจและตั้งใจเรียนและทำให้สามารถอ่านเรื่องและเขียนย่อความได้อย่างถูกต้อง มากขึ้น มีความซื่อสัตย์ในการทำงาน มีความตรงต่อเวลาเข้าเรียนตรงเวลา เคารพในสิทธิของผู้อื่น มีความสนใจในเรื่องที่ผู้สอนให้อ่านและกระตือรือร้นในการอ่านเรื่องมากยิ่งขึ้น

3. ด้านความคิดเห็นของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนย่อความ พบว่า มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ทั้งด้านเนื้อหาและด้านกิจกรรม

โพสต์โดย Krutukta : [20 ก.พ. 2566 เวลา 15:24 น.]
อ่าน [3338] ไอพี : 124.122.26.160
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,657 ครั้ง
กันเกรา
กันเกรา

เปิดอ่าน 31,853 ครั้ง
สูตรสำเร็จการเป็นข้าราชการ โดย ดร.จรวยพร ปลัดกระทรวง
สูตรสำเร็จการเป็นข้าราชการ โดย ดร.จรวยพร ปลัดกระทรวง

เปิดอ่าน 18,899 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง “รมว.ศึกษาฯ” กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)
รับชมย้อนหลัง “รมว.ศึกษาฯ” กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)

เปิดอ่าน 38,026 ครั้ง
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย

เปิดอ่าน 22,295 ครั้ง
ใช้ชีวิต Slow Life เพื่อความสุขยืนยาว ช้าแต่ชัวร์!!
ใช้ชีวิต Slow Life เพื่อความสุขยืนยาว ช้าแต่ชัวร์!!

เปิดอ่าน 25,931 ครั้ง
ยาสามัญประจำบ้าน
ยาสามัญประจำบ้าน

เปิดอ่าน 14,501 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?

เปิดอ่าน 22,485 ครั้ง
ทำไมคำว่า"ไทย" ต้องมี "ย" ยักษ์
ทำไมคำว่า"ไทย" ต้องมี "ย" ยักษ์

เปิดอ่าน 39,207 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542  หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)

เปิดอ่าน 188,849 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

เปิดอ่าน 2,346 ครั้ง
แนะนำ 5 อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เพิ่มขีดจำกัดในการใช้งานให้ทะลุหลอด
แนะนำ 5 อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เพิ่มขีดจำกัดในการใช้งานให้ทะลุหลอด

เปิดอ่าน 21,885 ครั้ง
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้

เปิดอ่าน 11,762 ครั้ง
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ

เปิดอ่าน 12,706 ครั้ง
ปัญหาของชาวโซเชียล เฟซบุ๊กกับภาวะซึมเศร้า
ปัญหาของชาวโซเชียล เฟซบุ๊กกับภาวะซึมเศร้า

เปิดอ่าน 13,246 ครั้ง
ตีแผ่ชีวิตเด็กจีนต้องปีนเขาสูง 800ม.เพื่อไปเรียนหนังสือ
ตีแผ่ชีวิตเด็กจีนต้องปีนเขาสูง 800ม.เพื่อไปเรียนหนังสือ

เปิดอ่าน 37,153 ครั้ง
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข
เปิดอ่าน 14,168 ครั้ง
ปลูกถ่ายเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ จากสุนัขมุ่งเน้นใช้ กับคนในอนาคต
ปลูกถ่ายเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ จากสุนัขมุ่งเน้นใช้ กับคนในอนาคต
เปิดอ่าน 29,679 ครั้ง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล
เปิดอ่าน 2,812 ครั้ง
ชวนลูกเล่น ตามรอยพระยุคลบาท… เด็กฉลาดสมวัย
ชวนลูกเล่น ตามรอยพระยุคลบาท… เด็กฉลาดสมวัย
เปิดอ่าน 11,893 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ