ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
พิมลรัตน์ โสธารัตน์. (2563). การพัฒนารูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วม

พิมลรัตน์ โสธารัตน์. (2563). การพัฒนารูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัด สภาพการปฏิบัติ และสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี 2. เพื่อสร้างและประเมินรูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี 3. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี ที่พัฒนาขึ้น

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 704 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan. 1970 : 608) ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling)โดยเลือกห้องเรียนที่มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตพฤติกรรม เก็บรวบรวมข้อมูลจากการดำเนินการ 3 ระยะ คือ การประเมินก่อนการดำเนินงานการประเมินระหว่างการดำเนินงาน และการประเมินหลังการดำเนินงาน การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive analysis) ได้แก่ ค่าเฉลี่ยร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้หาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ IOC หาความตรงเชิงเนื้อหาของแบบสอบถาม และสัมประสิทธิ์แอลฟาหาความเที่ยงของแบบสอบถาม

ผลการวิจัย สรุปได้ดังนี้

1. สภาพการปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียน โรงเรียนขนาดเล็กส่วนใหญ่มีการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี โดยการจัดเป็นกิจกรรมพิเศษ ซึ่งจะต่างกับกิจกรรมเสริมหลักสูตรตรงที่กิจกรรมพิเศษจัดขึ้นเป็นครั้งคราว ตามวาระ ไม่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ มักจะเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นจิตสำนึกในการพัฒนาตนเอง โดยจะขอความร่วมมือกับสถาบันที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียน เช่น สถาบันครอบครัว สถาบันทางศาสนา และโรงเรียนมีการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี 12 ประการ ของนักเรียนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น โรงเรียนพัฒนาหลักสูตรเฉพาะในการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียน ซึ่งแยกต่างหากจากกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีอยู่ในหลักสูตรปกติ โดยการศึกษาบริบทของสถานศึกษา

2. รูปแบบการบริหารงานการจัดกิจกรรมการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานีเป็นระบวนการเชิงระบบ 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ด้านปัจจัยนำเข้า ได้แก่ บริบทของสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอนความเป็นพลเมืองดี และผู้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ด้านกระบวนการ ได้แก่ การปรับกระบวนทัศน์การสอน การปฏิบัติงาน พัฒนาระบบข้อมูล องค์ความรู้ และประสานความสัมพันธ์เชิงสถาบันกับภาคีอื่นภายใต้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ การจัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ตามยุทธศาสตร์ กำหนดผู้รับผิดชอบดำเนินการพัฒนาตามกิจกรรมและโครงการ การนิเทศ ติดตาม และประเมินผลกิจกรรมจากผู้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา 6 ฝ่าย ด้านผลลัพธ์ ได้แก่ นักเรียนเป็นผู้มีความเป็นพลเมืองดี ตามความต้องการของทุกฝ่ายและโรงเรียน มีรูปแบบในการพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียน และผลกระทบ ได้แก่ นักเรียนเป็นผู้มีความเป็นพลเมืองดี โรงเรียนมีกิจกรรมหรือโครงการพัฒนาคุณธรรม และมีระบบในการพัฒนาความ เป็นพลเมืองดี ของนักเรียน ตามเป้าประสงค์ของผู้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

3. ผู้ทรงคุณวุฒิได้ตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของร่างรูปแบบฯ ทรงคุณวุฒิ ในการประเมินรูปแบบการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากทั้งสองด้าน

4. ผลการประเมินผลรูปแบบการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี โดยใช้

กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ

5. ผลการทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือของนักเรียนโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี

5.1 ผลการประเมินการปฏิบัติพฤติกรรมการปฏิบัติ เกี่ยวกับความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานีโดยรวมทั้ง 6 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับดี ยกเว้นด้านที่ 3 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ อยู่ในระดับดีมาก

5.2 ผลการพิจารณาด้านความตรง (Validity) ของรูปแบบฯ โดยการทดสอบความแตกต่างของคะแนนการประเมินเฉลี่ยระหว่างผลการประเมินโดยครู เพื่อนนักเรียน นักเรียนและผู้ปกครอง ก่อนและหลังการใช้รูปแบบฯ พบว่า หลังการใช้รูปแบบการส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี“รูปแบบการมีส่วนร่วมของภาคี 6 ฝ่าย” สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

6. ความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ มีความพึงพอใจระดับมากที่สุด 8 ข้อ ระดับมาก 31 ข้อ

ข้อเสนอแนะ

1.1 การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการบริหารงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน ตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบกลุ่มร่วมมือ ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ สุราษฎร์ธานี ดังนั้นในการวิจัยครั้งต่อไป ควรมีการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะความเป็นพลเมืองดี ที่มีในมาตรฐานที่ 1 ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญูกตเวที ความเมตตากรุณา การประหยัด เป็นต้น เพราะตามทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือศักยภาพของพฤติกรรมเกิดจากประสบการณ์ หรือการฝึกฝน

1.2 ควรศึกษาเปรียบเทียบความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนด้านการมีวินัย ในตนเองการรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นและการรักการค้นคว้าหาความรู้ในขอบเขตที่กว้างขึ้น เช่น ระดับชั้น ระดับโรงเรียน ระดับจังหวัด หรืออาจจะเปรียบเทียบต่างสังกัด เช่น โรงเรียนในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนในสังกัดกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เป็นต้น และเปรียบเทียบขนาดของโรงเรียน เช่น ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อจะได้ข้อสรุปที่ครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย พิมลรัตน์ โสธารัตน์ : [19 ก.พ. 2566 เวลา 18:44 น.]
อ่าน [3200] ไอพี : 171.6.249.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 48,430 ครั้ง
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม

เปิดอ่าน 31,751 ครั้ง
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก

เปิดอ่าน 17,051 ครั้ง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง

เปิดอ่าน 214,910 ครั้ง
เทคนิคการคิดเลขเร็ว
เทคนิคการคิดเลขเร็ว

เปิดอ่าน 22,022 ครั้ง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง

เปิดอ่าน 12,271 ครั้ง
6 วิธี กินซูชิให้อร่อย
6 วิธี กินซูชิให้อร่อย

เปิดอ่าน 31,024 ครั้ง
เป็ดแมนดาริน
เป็ดแมนดาริน

เปิดอ่าน 13,418 ครั้ง
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน

เปิดอ่าน 88,668 ครั้ง
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)

เปิดอ่าน 14,130 ครั้ง
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

เปิดอ่าน 9,706 ครั้ง
เตือนคนไทยระวัง "โรคลมร้อน"
เตือนคนไทยระวัง "โรคลมร้อน"

เปิดอ่าน 44,661 ครั้ง
9 อาชีพน่าอิจฉา เงินเดือนทะลุล้าน
9 อาชีพน่าอิจฉา เงินเดือนทะลุล้าน

เปิดอ่าน 52,327 ครั้ง
หลักเกณฑ์สอบ ผอ.และรอง ผอ.
หลักเกณฑ์สอบ ผอ.และรอง ผอ.

เปิดอ่าน 3,154 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 24,756 ครั้ง
หีบพระศพ
หีบพระศพ

เปิดอ่าน 24,339 ครั้ง
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
เปิดอ่าน 16,137 ครั้ง
แชร์ว่อนเน็ต คลิป"มอเตอร์ไซค์รับจ้าง"พูดอังกฤษคล่องปรื๋อ! ให้สัมภาษณ์ทีวีสิงคโปร์ หลายคนแห่ชื่นชม !!
แชร์ว่อนเน็ต คลิป"มอเตอร์ไซค์รับจ้าง"พูดอังกฤษคล่องปรื๋อ! ให้สัมภาษณ์ทีวีสิงคโปร์ หลายคนแห่ชื่นชม !!
เปิดอ่าน 13,627 ครั้ง
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
เปิดอ่าน 16,657 ครั้ง
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
เปิดอ่าน 13,696 ครั้ง
เคล็ดลับ : กลิ่นมะนาวช่วยลด"เครียด"
เคล็ดลับ : กลิ่นมะนาวช่วยลด"เครียด"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ