ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินเชิงระบบโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

(Executive summary)

การประเมินโครงการเรื่อง: การประเมินเชิงระบบโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติด

ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี

ผู้ประเมิน: พิมลรัตน์ โสธารัตน์

สถานศึกษา: โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร

ปีที่ทำการประเมิน: 2563

...................................................................................................................................................................

การประเมินเชิงระบบโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดของ โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ปีการศึกษา 2563 เป็นโครงการที่มีแนวปฏิบัติอย่างเป็นระบบ ใช้รูปแบบการประเมิน แบบ CIPP Model ใน 4 ด้าน ได้แก่ การประเมินบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) และ การประเมินผลผลิต (Product Evaluation) การประเมินมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการความจำเป็น ความสอดคล้อง และความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ของโครงการ 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการ เกี่ยวกับความพร้อมของผู้รับผิดชอบโครงการ ความพร้อมของอาคารสถานที่ ความเพียงพอของงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และความพร้อม ด้านการบริหารจัดการ 3) เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินงานของโครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม ด้านการวางแผน ด้านการดำเนินงาน ด้านการกำกับติดตาม ประเมินผล และด้านการนำผล ไปปรับปรุงพัฒนา และ4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับความรู้ในการป้องกันยาเสพติด เจตคติต่อการป้องกันยาเสพติด พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากยาเสพติด และความพึงพอใจ ต่อการดำเนินโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 278 คน กำหนดขนาด ของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน ประกอบด้วย ครู จำนวน 8 คน ได้มาโดย การสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) นักเรียนจำนวน 160 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยเลือกห้องเรียนที่มีนักเรียนกลุ่มเสี่ยงสูง ดังนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จำนวน 28 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 จำนวน 26 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 30 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 จำนวน 25 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 26 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 จำนวน 25 คน ผู้ปกครองนักเรียน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนในห้องเรียนที่มีกลุ่มเสี่ยงสูง และทำการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จำนวน 106 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 1 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 1 คน ได้มาจากการสุ่มแบบเจาะจง การประเมินโครงการแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 การประเมินก่อนการดำเนินโครงการ มีการเก็บข้อมูล 2 ขั้นตอน 1) เป็นการประเมินด้านบริบท กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 116 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามฉบับที่ 1 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.47 - 0.97 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.98 และใช้แบบสัมภาษณ์ กึ่งมีโครงสร้าง เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ครู เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 10 คน 2) เป็นการประเมินเกี่ยวกับปัจจัยนำเข้า กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู จำนวน 8 คน เครื่องมือ เป็นแบบสอบถามฉบับที่ 2 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.48 - 0.79 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.93 ระยะที่ 2 การประเมินระหว่างดำเนินโครงการ มีการเก็บข้อมูล 1 ขั้นตอน คือ กระบวนการดำเนินงานของโครงการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ครู ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 118 คน โดยใช้แบบสอบถามฉบับที่ 3 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.34 - 0.71 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.96 ระยะที่ 3 การประเมินหลังการดำเนินงาน เป็นการประเมินผลผลิต มีการเก็บข้อมูล 4 ประการ ดังนี้ 1) การประเมินผลเกี่ยวกับความรู้ในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน จำนวน 160 คน เครื่องมือเป็นแบบทดสอบวัดความรู้ เรื่อง การป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด มีค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.46 - 0.68 ค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง 0.37 - 0.74 และ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 2) การประเมินเจตคติเชิงบวกต่อการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน จำนวน 160 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามฉบับที่ 4 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.42 – 0.73 และ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.92 3) การประเมินพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากยาเสพติด กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน จำนวน 160 คน เครื่องมือเป็นแบบสังเกตพฤติกรรมการป้องกันตนเอง จากยาเสพติดของนักเรียน มีค่าความสอดคล้อง ระหว่าง 0.80 - 1.00 และ 4) การประเมินความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ครู จำนวน 274 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.55 - 0.70 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.90 เครื่องมือที่ใช้ใน การเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต และแบบทดสอบ โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการประเมิน พบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติด ของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับความต้องการความจำเป็น ความสอดคล้องและความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ

1.1 ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการความจำเป็น ความสอดคล้องและความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับคุณภาพเห็นด้วยอย่างยิ่ง ( = 4.68) เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกรายการอยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความต้องการจำเป็นของโครงการ ความสอดคล้อง ของวัตถุประสงค์ และ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ตามลำดับ

1.2 ผลการสัมภาษณ์ความคิดเห็นของ ครู เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยผู้ให้สัมภาษณ์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในสังคมหรือในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่ามีความเสี่ยงมากที่จะเกิดปัญหายาเสพติดกับนักเรียนเพราะมีปัจจัยเสี่ยงรอบตัวนักเรียน เช่น สถานบันเทิงที่มีจำนวนมาก สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาครอบครัวและช่วงวัย ของนักเรียน ที่มีความอยากรู้ อยากลอง ผู้ให้สัมภาษณ์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทาง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของนักเรียน โดยให้โรงเรียนกำหนดนโยบายที่ชัดเจน มีการจัดทำโครงการเพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากยาเสพติดเป็นการสร้างความตระหนักและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้แก่นักเรียน และดำเนินงานแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และผู้ให้สัมภาษณ์ได้แสดงความคิดเห็นในการสนับสนุน และเห็นด้วยอย่างยิ่ง ในการจัดทำ โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันปัญหายาเสพติดของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของการประเมินเชิงระบบโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับคุณภาพมากที่สุด ( = 4.60) เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกรายการอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.56 - 4.66 เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความเพียงพอของงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ ความพร้อมของอาคารสถานที่ ความพร้อมด้านการบริหารจัดการ และความพร้อม ของผู้รับผิดชอบโครงการ ตามลำดับ

3. ผลการประเมินกระบวนการดำเนินงานของโครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมด้านการวางแผน ด้านการดำเนินงาน ด้านการกำกับติดตาม ประเมินผล และด้านการนำผลไปปรับปรุงพัฒนา โดยภาพรวมอยู่ในระดับคุณภาพมากที่สุด ( = 4.60) เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกรายการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.57 - 4.64 เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ การมีส่วนร่วมด้านการวางแผน ด้านการดำเนินงาน ด้านการกำกับติดตาม ประเมินผล และ การมีส่วนร่วมด้านการนำผลไปปรับปรุงพัฒนา ตามลำดับ

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี พบว่า

4.1 ผลการทดสอบวัดความรู้ก่อนและหลังเรียน เรื่อง การป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดของนักเรียนโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี โดยรวมผลการเรียนก่อนเรียน ได้คะแนน คิดเป็นร้อยละ 31.12 หลังเรียนได้คะแนน คิดเป็นร้อยละ 93.16 เมื่อจำแนกเป็นชั้นเรียนปรากฏว่า ทุกชั้นเรียนมีผลการทดสอบวัดความรู้มากกว่าร้อยละ 80.00 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการประเมินเจตคติต่อการป้องกันยาเสพติดของนักเรียนเกี่ยวกับด้านแนวคิดเชิงบวกเกี่ยวกับการต้านยาเสพติด ด้านความรู้สึกเชิงบวกในการต้านยาเสพติด และด้านแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมต้านยาเสพติด โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดของ โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี พบว่า โดยค่าเฉลี่ยรวม เท่ากับ 4.59 และเมื่อพิจารณา เป็นรายข้อ มีระดับเจตคติ เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.56 – 4.61 แปลความหมายได้ว่า นักเรียนมีเจตคติเชิงบวกต่อการป้องกันยาเสพติด

4.3 ผลการประเมินการสังเกตระดับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากยาเสพติดของนักเรียนโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานีโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยาพบว่า ภาพรวม มีการปฏิบัติระดับมากที่สุด ( = 4.67) เมื่อพิจารณา เป็นรายการ พบว่า ทุกรายการอยู่ในระดับปฏิบัติมากที่สุด

4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและ แก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ทุกรายการอยู่ในระดับมากที่สุด

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้

1. โรงเรียนควรมีโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องทุกปีและครูควรเตรียมการที่จะเข้าร่วมโครงการการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง

2. โรงเรียนควรเป็นแหล่งรวบรวมกลยุทธ์การป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และ การเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา และเผยแพร่สู่ภายนอก

3. โรงเรียนควรมีการเชื่อมต่อด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการสร้างเครือข่าย ทางการศึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูลการเรียนรู้ทรัพยากรที่สามารถสื่อสารกันได้ทั่วประเทศ

4. โรงเรียนควรใช้โครงการเป็นสื่อที่ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน

5. โรงเรียนควรจัดทำข้อมูลการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดนำขึ้นเว็บไซต์ เพื่อเป็น การเผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการ และเป็นแนวทางในการสร้างเครือข่ายกับทั้งองค์การภายนอกและภายในโรงเรียน

6. ครูควรเตรียมการที่จะเข้าร่วมโครงการการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดของโรงเรียน ต่อเนื่องทุกปี

7. ครูควรบูรณาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสาระ “การป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด”กับทุกกลุ่มสาระวิชา และควรดำเนินการตามคู่มือให้ครบทุกขั้นตอนและสามารถปรับกิจกรรม โครงการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน

8. ผู้บริหารควรมีการสร้างขวัญกำลังใจแก่ครูโดยเป็นแบบอย่างที่ดี ปรึกษาและช่วยเหลือตามความเหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูได้ใช้โครงการการป้องกันและแก้ปัญหา ยาเสพติดในการจัดการเรียนรู้ในกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินครั้งต่อไป

1. ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันปัญหา ยาเสพติดและโครงการอื่นที่โรงเรียนรับผิดชอบ

2. ทำการประเมินโครงการ เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำชุมชน ครูพระ ครูตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกับสถานศึกษา เพื่อเป็นข้อมูลในการบริหารโครงการ และสร้างความเข้าใจและร่วมมือที่ดีต่อกันต่อไป

โพสต์โดย พิมลรัตน์ โสธารัตน์ : [19 ก.พ. 2566 เวลา 18:38 น.]
อ่าน [1657] ไอพี : 171.6.249.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,461 ครั้ง
6 วิธีสร้างเครดิตการเงินดี ขอสินเชื่อผ่านง่าย
6 วิธีสร้างเครดิตการเงินดี ขอสินเชื่อผ่านง่าย

เปิดอ่าน 11,785 ครั้ง
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก

เปิดอ่าน 5,727 ครั้ง
"#TikTokUni" ยกระดับการเรียนรู้ สู่การพัฒนาตนเองของคน Genใหม่
"#TikTokUni" ยกระดับการเรียนรู้ สู่การพัฒนาตนเองของคน Genใหม่

เปิดอ่าน 38,944 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)

เปิดอ่าน 21,577 ครั้ง
หมอขายครีม ผิดจรรยาบรรณ?
หมอขายครีม ผิดจรรยาบรรณ?

เปิดอ่าน 22,826 ครั้ง
เทคนิคการคูณแบบญี่ปุ่น ลองฝึกดูครับ
เทคนิคการคูณแบบญี่ปุ่น ลองฝึกดูครับ

เปิดอ่าน 12,170 ครั้ง
มัลเบอร์รี่ ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
มัลเบอร์รี่ ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013

เปิดอ่าน 18,231 ครั้ง
20 กันยายน วันเยาวชนแห่งชาติ
20 กันยายน วันเยาวชนแห่งชาติ

เปิดอ่าน 14,993 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 78,104 ครั้ง
การปอกผลไม้ไม่ให้ดำ
การปอกผลไม้ไม่ให้ดำ

เปิดอ่าน 13,844 ครั้ง
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท

เปิดอ่าน 18,573 ครั้ง
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?

เปิดอ่าน 16,445 ครั้ง
ผักกระเฉด
ผักกระเฉด

เปิดอ่าน 16,156 ครั้ง
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 32,391 ครั้ง
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้

เปิดอ่าน 12,053 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
เปิดอ่าน 15,054 ครั้ง
ทำไมไข่เยี่ยวม้าจึงมีสีดำ
ทำไมไข่เยี่ยวม้าจึงมีสีดำ
เปิดอ่าน 10,913 ครั้ง
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
เปิดอ่าน 284,002 ครั้ง
มารยาทในการพูด
มารยาทในการพูด
เปิดอ่าน 27,708 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ