บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเปือยนาสูง อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Claster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) จำนวน 8 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ .26 ถึง .74 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ .23 ถึง .89 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .86 และแบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 12 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ .41 ถึง .72 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .75
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง
พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีค่าเท่ากับ 88.22/ 83.44 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 0.7077 คือ นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 70.77
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบ
เสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.75 อยู่ในระดับ
มากที่สุด
สรุปได้ว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
(5Es) เรื่อง พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นสื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดังนั้นครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ได้และมีการนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง พันธุศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะทำให้นักเรียนตั้งใจเรียนและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น การเรียนการสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้จึงเป็นเทคนิควิธีหนึ่งที่สามารถนำใช้ในการพัฒนาผู้เรียนเป็นอย่างดี จึงควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ครูนำรูปแบบการเรียนนี้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ ต่อไป