ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา
เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้รายงาน : นายนฏิศวร์ สายโสม
ตำแหน่ง : ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด : โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
ปีที่พิมพ์ : 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 2) เพื่อศึกษาผลการพัฒนารูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3/1 โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 33 คน ที่ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนจัดการเรียนรู้ใช้เวลาแผนละ 1 ชั่วโมง จำนวน 20 แผน 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 30 ข้อ 3) แบบทดสอบความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ จำนวน 3 กิจกรรม 4) แบบทดสอบความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ จำนวน 30 ข้อ และ 5) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า KUTAR Model มีกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเสนอความรู้ (Knowledge Presentation Stage) ขั้นที่ 2 ขั้นการใช้ความรู้เดิม (Using Prior Knowledge) ขั้นที่ 3 ขั้นกระตุ้นความคิด (Thought Provoking)
ขั้นที่ 4 ขั้นนำความคิดไปใช้ (Applying the Idea) และขั้นที่ 5 ขั้นทบทวนและประเมินผลในการคิด (Review and Assessment in Thinking)
2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สรุปได้ ดังนี้
2.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 85.01/84.55 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยรูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
2.3 ความสามารถด้านการคิดอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
2.4 ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
2.5 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนศิลปะโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด