ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะ

ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑

สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ผู้วิจัย นางสาวจิตติมา เพชรชิต

ปีที่วิจัย 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี 4) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้ เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัด สุราษฎร์ธานี ดังนี้ 4.1 เปรียบเทียบสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ของครูผู้รับการพัฒนาก่อนและหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก 4.2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อน และหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ผู้วิจัยใช้วิธีดำเนินการวิจัย ในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R & D) ประกอบด้วย 4 ระยะ ระยะที่ 1 การกำหนดกรอบแนวคิดของการวิจัย ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัด กองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะที่ 3 ศึกษาผลการทดลองใช้ และปรับปรุงรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมือง ท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานีและระยะที่ 4 ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มผู้ร่วมวิจัย ประกอบด้วย ครูผู้สอนที่เป็นข้าราชการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ จำนวน 12 คน และนักเรียนระดับชั้นระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 271 คน โดยการเก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า รูปแบบมี 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ องค์ประกอบหลักที่ 1 ขอบข่ายงานวิชาการที่ต้องพัฒนา มี 5 ด้านประกอบด้วย (1) การบริหารหลักสูตร (2) การจัดกระบวนการเรียนรู้ (3) การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา (4) การพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และ (5) การนิเทศการศึกษา องค์ประกอบหลักที่ 2 กระบวนการบริหารงานวิชาการ มี 3 ขั้นตอนประกอบด้วย (1) การวางแผน (2) การดําเนินงาน และ (3) การประเมินผล

2. ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ใน ระดับมากที่สุด ( = 4.83, S.D. = 0.39) เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุดทั้ง 2 องค์ประกอบหลัก เรียงลำดับค่าเฉลี่ยขององค์ประกอบหลักจาก มากไปหาน้อยได้ดังนี้ กระบวนการบริหารงานวิชาการ ( = 4.84, S.D.=0.37) และขอบข่าย งานวิชาการที่ต้องพัฒนา ( = 4.82, S.D. = 0.39) ตามลำดับ และผลการพัฒนาคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า คู่มือการใช้รูปแบบมีความเหมาะสมในการนําไปใช้ในการบริหารงานวิชาการโดยมีเนื้อหาประกอบด้วย คําชี้แจง ความเป็นมาและความสำคัญของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี วัตถุประสงค์ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบก่อนนำไปใช้จริง ดังนี้ 1) ผลการเปรียบเทียบทักษะการจัด การเรียนรู้เชิงรุกของครูกลุ่มทดลองทั้ง 12 คน พบว่า ภายหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุกคนโดยภาพรวมก่อนการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ระดับน้อย และหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครูมีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อน และหลังการจัดการเรียนรู้เชิงรุก นักเรียนของครูกลุ่มทดลอง พบว่า มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงกว่าคะแนนก่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดังนี้ผลจากการส่งเสริมทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้รับการชี้แนะสรุปผลได้ ดังนี้ 1) ผลการประเมินทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกครูผู้รับการชี้แนะทั้ง 12 คน มีทักษะการจัด การเรียนรู้เชิงรุก ได้แก่ ทักษะการวางแผนทักษะการออกแบบการเรียนรู้ TPCK ทักษะการสะท้อนผล และทักษะการเรียนรู้เป็นทีม: PLC สูงขึ้นทุกคน 2) ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ครูผู้รับการชี้แนะทั้ง 12 คน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลจากการสังเกตการสอนครูผู้รับการชี้แนะมีการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงขึ้น และผลการตรวจสอบรายการปฏิบัติทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกทั้ง 4 ทักษะครูผู้รับการชี้แนะมีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยรวมอยู่ในระดับปฏิบัติมากทุกคน 4) ผลการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (AAR) พบว่า สิ่งที่ครูผู้รับการชี้แนะได้รับจากรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก คือ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนรู้โดยเทคนิควิธีการสอนใหม่ๆ การสะท้อนผลก่อนการจัดการเรียนรู้ระหว่างการจัดการเรียนรู้ และได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาภายหลังการจัดการเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน และจากการเรียนรู้เป็นทีม: PLC นำมาปรับปรุงการเขียนแผนทุกครั้งทำให้แผนการจัดการเรียนรู้มีความสมบูรณ์สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนได้ 5) ผลการสะท้อนผลการเรียนรู้เป็นทีม: PLC พบว่า การใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสามารถส่งเสริมให้ครูผู้รับการชี้แนะมีทักษะในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ทักษะการออกแบบการเรียนรู้ TPCK ทักษะใน การสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ และทักษะในการทำงานเป็นทีม: PLC โดยมีผลการใช้รูปแบบ การบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดังนี้

4.1 ผลการเปรียบเทียบสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้รับ

การชี้แนะทั้ง 12 คน พบว่า หลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะ ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครูผู้รับการชี้แนะมีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุกคน

4.2 ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนของครูผู้รับการ

ชี้แนะทั้ง 12 คน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกทุกคนโดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

โพสต์โดย ศิริ : [15 ก.พ. 2566 เวลา 17:34 น.]
อ่าน [2352] ไอพี : 14.207.5.206
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 6,797 ครั้ง
การกำหนดประเภทของงานตรวจสอบภายใน (กรมบัญชีกลาง 23 ธันวาคม 2563)
การกำหนดประเภทของงานตรวจสอบภายใน (กรมบัญชีกลาง 23 ธันวาคม 2563)

เปิดอ่าน 11,737 ครั้ง
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี

เปิดอ่าน 12,814 ครั้ง
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ

เปิดอ่าน 10,086 ครั้ง
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด

เปิดอ่าน 21,281 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 9,352 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม

เปิดอ่าน 12,013 ครั้ง
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553

เปิดอ่าน 11,494 ครั้ง
"เลี้ยง"ต้องแบบไหน? "ลูกยุคดิจิตอล" ข้ามวิกฤต..สู่ไทย 4.0
"เลี้ยง"ต้องแบบไหน? "ลูกยุคดิจิตอล" ข้ามวิกฤต..สู่ไทย 4.0

เปิดอ่าน 14,621 ครั้ง
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์

เปิดอ่าน 143,591 ครั้ง
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

เปิดอ่าน 10,137 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว

เปิดอ่าน 17,082 ครั้ง
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?

เปิดอ่าน 12,128 ครั้ง
7 วิธี ช่วยคุณจัดสรรเวลา
7 วิธี ช่วยคุณจัดสรรเวลา

เปิดอ่าน 19,138 ครั้ง
เตือนภัย! แก๊งตบทรัพย์หลอกขับรถชนเรียกค่าเสียหาย
เตือนภัย! แก๊งตบทรัพย์หลอกขับรถชนเรียกค่าเสียหาย

เปิดอ่าน 9,770 ครั้ง
"อยากไปโรงเรียน" โจทย์ใหญ่? พ่อแม่ช่วยลูกได้..ด้วย "สนุก"
"อยากไปโรงเรียน" โจทย์ใหญ่? พ่อแม่ช่วยลูกได้..ด้วย "สนุก"

เปิดอ่าน 11,836 ครั้ง
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข
เปิดอ่าน 50,199 ครั้ง
ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้
ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้
เปิดอ่าน 13,537 ครั้ง
คำว่า สปา มาจากไหน
คำว่า สปา มาจากไหน
เปิดอ่าน 8,793 ครั้ง
Google ใหญ่ขึ้น!!! คุณไม่ได้ตาฝาด...
Google ใหญ่ขึ้น!!! คุณไม่ได้ตาฝาด...
เปิดอ่าน 11,781 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ