บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) กับเกณฑ์ร้อยละ 80 3) เพื่อศึกษาทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) 4) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) กับเกณฑ์ร้อยละ 70 5) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 34 คนที่ได้มาด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random sampling) โดยการจับสลากใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ตามรูปแบบการวิจัยเป็นแบบที่มีการทดสอบก่อนและหลังทดลอง (One group pretest posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทำความรู้จักเศรษฐศาสตร์กันเถอะ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง อุปสงค์และอุปทาน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง มารู้จักการบริโภคอย่างมีคุณค่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สถาบันการเงินกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง มองดูเศรษฐกิจไทยของเรา และแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง ชีวิตเป็นสุขด้วยเศรษฐกิจพอเพียง และนำมาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา2 (ส21102) ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ 18 ชั่วโมง 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) มีค่าระหว่าง 0.80 1.00 และแบบทดสอบทั้งฉบับมีค่าความเชื่อมั่น 0.93
3) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผล อัตนัย จำนวน 4 ข้อ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) มีค่าระหว่าง 0.80 1.00 และแบบทดสอบทั้งฉบับมีค่าความเชื่อมั่น 0.85 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม การเรียนรู้ บรรยากาศการจัดการเรียนรู้ และด้านประโยชน์ที่ได้รับ จำนวน 16 ข้อ ค่าดัชนีความสอดคล้องความคิดเห็นกับจุดประสงค์การเรียนรู้รายข้อ (IOC) มีค่าระหว่าง 0.80 1.00 ในการหาประสิทธิภาพของเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า 1. การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผลการประเมินคุณภาพและความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยรายแผนการจัดการเรียนรู้ระหว่าง 4.35- 4.58 และค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.49 มีคุณภาพและเหมาะสมมาก ผลคะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนและคะแนน หลังเรียนมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.99/82.13 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.62 คิดเป็นร้อยละ 62
2. ผลวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) กับเกณฑ์ร้อยละ 80 โดยผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) มีค่าร้อยละ 82.13 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80
4. ผลการศึกษาทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) มีผลคะแนนที่ได้จากการวัดทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลรวมทุกด้านของนักเรียนส่วนใหญ่มีทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ( x̄= 2.76, S.D. = 0.11) อยู่ในระดับดี
5. ผลวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลหลังเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) กับเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) มีค่าร้อยละ 92.00 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70
6. ผลวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น(5Es) มีความพึงพอใจในการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านบรรยากาศการจัดการเรียนรู้ และด้านประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งจากผลความพึงพอใจส่วนใหญ่นักเรียนได้สร้างความรู้ความเข้าใจด้วยตนเอง สามารถตัดสินใจโดยใช้เหตุผล และกล้าแสดงความคิดเห็น และบรรยากาศของการเรียนเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนรวมในการทำกิจกรรมการเรียนรู้กล้าคิด กล้าตอบในการแสดงความคิดเห็นและกิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับเนื้อหามีความพึงพอใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ย( = 4.31, S.D. = 0.40)อยู่ในระดับมาก