ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่ อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่)

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่)

ผู้วิจัย ศุภรา ปางนิติคณากร

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษาวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่)

ปีที่วิจัย 2564

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ 2) เพื่อศึกษาผลการนำรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ไปใช้ และ 3) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ดำเนินการวิจัย 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 สำรวจข้อมูลและวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (Needs) ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการ โดยนำผลในระยะที่ 1 มาพัฒนา ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการ ในกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารและครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา และกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จำนวน 6 คน และ ระยะที่ 4 ประเมินและปรับปรุงรูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบบันทึกการสนทนาและอภิปรายกลุ่ม แบบสำรวจคุณลักษณะของครูต้นแบบและบันทึกจากเรื่องเล่า แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบรายงานประเด็นวิพากษ์และถอดองค์ความรู้และประสบการณ์การบริหารจัดการสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ แบบรายงานการอบรมเชิงปฏิบัติการ แบบประเมินการใช้รูปแบบการบริหารจัดการ และแบบวัดอัจฉริยภาพผู้เรียน จำนวนรวม 15 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ข้อมูลด้านข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะวิเคราะห์ด้วยการแจกแจงความถี่และวิเคราะห์เนื้อหา โดยสรุปเป็นประเด็นสำคัญ และนำเสนอในลักษณะความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบที่พัฒนาขึ้น คือ ดีเอ็มทูไทน์โมเดล (DM2TIE Model) มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 5 ข้อ 2) วัตถุประสงค์ 3 ข้อ 3) ขั้นตอนการบริหารจัดการ (DM2TIE Model) 8 ขั้นตอนหลัก และ 24 ขั้นตอนย่อย ได้แก่ (1) สร้างความเข้าใจและวางเป้าหมายร่วม (Defining goals) (2) ระดมสรรพกำลังสร้างเครือข่าย (Mobilize Network) (3) พัฒนาครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงแบบนักวิชาชีพ (Transformational Leader Teacher) (4) หลอมรวมกิจกรรมกับวิธีจัดการเรียนรู้ผนวกสื่อเทคโนโลยี (Technological pedagogical content knowledge; TPACK;) (5) สร้างหลักสูตรเฉพาะบุคคล (Individual Course) (6) ฝึกฝนทักษะแบบเข้มข้น (Intensive skill training) (7) สร้างประสบการณ์ใหม่ขยายขีดความสามารถ (Extend the competency) และ (8) ประเมินสมรรถนะเฉพาะด้าน (Evaluate specific competencies) และ 4) ปัจจัยสนับสนุนขั้นตอนการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูต้นแบบ 8 กิจกรรมย่อย ได้แก่ (1) วางแผนการจัดการเรียนรู้ (2) บูรณาการการเรียนรู้เชิงรุก (3) บริหารจัดการชั้นเรียน (4) บูรณาการเนื้อหากับสื่อเทคโนโลยีผนวกวิธีสอน (5) วัดและประเมินผู้เรียน (6) สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์แก่ผู้เรียน (7) เชื่อมโยงความรู้ ขยายความรู้และประสบการณ์ใหม่แก่ผู้เรียน และ (8) เสริมสร้างผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพระดับบุคคล

2. ผลการนำรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) ไปใช้

2.1 ผลการใช้รูปแบบในกลุ่มทดลองครั้งที่ 1 (Pilot Group) พบว่า โดยภาพรวมมีค่า

ร้อยละเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งสองกลุ่ม ( X-bar = 4.11, S.D. = .47)

2.2 ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกในกลุ่มทดลองครั้งที่ 1 (Pilot Group) พบว่า 1) ความสำเร็จของการนำไปใช้ มีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมการฝึกทักษะแบบเข้มข้น กิจกรรมไอดอลเยาวชนแบบอย่าง 2) ปัญหาและข้อเสนอแนะเพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหา งบประมาณ เวลา และการดูแลเอาใจใส่เพิ่มเติมจากผู้ปกครอง และขาดสื่อเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง 3) สิ่งที่ได้เรียนรู้ สถานศึกษาสามารถจัดโอกาสให้ผู้เรียนได้ตามศักยภาพหากสนับสนุนอย่างจริงจัง

2.3 ผลการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการบริหารจัดการในกลุ่มทดลองครั้งที่ 1 (Pilot Group) โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( X-bar = 4.77, S.D. = .14)

2.4 ผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการในกลุ่มทดลองจริง พบว่า โดยภาพรวมมีค่าร้อยละเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.77, s.d. = .40)

2.5 ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกผลการใช้รูปแบบการบริหารในกลุ่มทดลองจริง พบว่า 1) ภาพความสำเร็จในการบรรลุคุณลักษณะที่คาดหวัง (ระดับพื้นฐานและระดับกลาง) ผลที่เกิดกับครูเห็นพัฒนาการทั้งในด้านการจัดการเรียนรู้ มีการใช้สื่อเทคโนโลยีและการเรียนรู้ในระบบออนไลน์เพื่อวางแผนร่วมกันพัฒนา ประชุมปรึกษาทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ผู้เรียนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมบรรลุคุณลักษณะที่คาดหวัง ซึ่งประเมินจากแบบวัดอัจฉริยภาพผู้เรียน 2) แนวทางหรือวิธีการสร้างอัจฉริยภาพหรือความเป็นเลิศในระดับสูง สร้างหลักสูตรระดับบุคคล หากกระบวนการสร้างหลักสูตรไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และมีเวทีการแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงศักยภาพ และขยายขีดความสามารถให้สูงขึ้น 3) ปัญหา อุปสรรคและสิ่งที่ได้เรียนรู้ ปัจจัยภายในและภายนอกคือมีนโยบายที่ยังไม่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ เกิดแรงต่อต้านจากผู้ปกครองบางส่วนที่บุตรหลานของตนเองไม่ได้เข้าร่วมโครงการ และงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด

3. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างครูต้นแบบยกระดับผู้เรียนสู่อัจฉริยภาพด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่)

3.1 ผลการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจในกลุ่มทดลองจริง โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ในกลุ่มผู้บริหารและครู (x̄ = 4.19, s.d. = .43)

3.2 ผลการสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูต้นแบบ โดยภาพรวมมีค่าร้อยละเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.46, s.d. = .61) โดยประเด็นตัวชี้วัด ด้านการบูรณาการเนื้อหากับสื่อเทคโนโลยีผนวกวิธีสอน (TPACK) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ = 4.26, s.d. = .59) อยู่ในระดับมาก

3.3 ผลการวัดอัจฉริยภาพผู้เรียนด้านกีฬา ดนตรีและนาฏศิลป์ ในระยะที่ 4 การประเมินและปรับปรุงรูปแบบ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมมีค่าร้อยละเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x.bar = 4.02, S.D. = .60) เมื่อพิจารณาแต่ละประเด็นตัวชี้วัด พบว่า ด้านความรู้ ความเข้าใจและทักษะที่แสดงออกด้านกีฬา (ระดับพื้นฐาน) และด้านนาฏศิลป์ (ระดับพื้นฐาน) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄ = 4.34, S.D. = .59) อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอัจฉริยภาพผู้เรียนด้านดนตรี (ระดับสูง) ( x̄ = 3.41, S.D. = .59) มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด และอยู่ในระดับปานกลาง

โพสต์โดย ๋joy : [9 ก.พ. 2566 เวลา 23:09 น.]
อ่าน [3288] ไอพี : 49.237.22.35
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 37,093 ครั้ง
วัสดุในชีวิตประจำวัน
วัสดุในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 11,606 ครั้ง
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก

เปิดอ่าน 40,777 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ (ฉบับที่ 2) ปี 2555
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ (ฉบับที่ 2) ปี 2555

เปิดอ่าน 25,189 ครั้ง
ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ธูปกี่ดอกกันบ้าง?
ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ธูปกี่ดอกกันบ้าง?

เปิดอ่าน 11,039 ครั้ง
5 เทคโนโลยีสำคัญในปี 2559
5 เทคโนโลยีสำคัญในปี 2559

เปิดอ่าน 13,040 ครั้ง
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน

เปิดอ่าน 25,347 ครั้ง
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คืออะไร

เปิดอ่าน 18,541 ครั้ง
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า
มารู้จัก GAT และ PAT กันดีกว่า

เปิดอ่าน 64,579 ครั้ง
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย

เปิดอ่าน 9,677 ครั้ง
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร

เปิดอ่าน 10,217 ครั้ง
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย

เปิดอ่าน 9,639 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทยเปิดศักราช งานแสตมป์เอเชีย 2010
ไปรษณีย์ไทยเปิดศักราช งานแสตมป์เอเชีย 2010

เปิดอ่าน 27,006 ครั้ง
แบ่งชนชั้นโดยการศึกษา โดย วีรพงษ์ รามางกูร
แบ่งชนชั้นโดยการศึกษา โดย วีรพงษ์ รามางกูร

เปิดอ่าน 13,630 ครั้ง
พากษ์อีสาน คลิปล้อตัวอย่าง "ฟรีแลนซ์ฯ" รุ่นจิ๋ว ที่ผู้กับเต๋อถึงกับยกนิ้วให้
พากษ์อีสาน คลิปล้อตัวอย่าง "ฟรีแลนซ์ฯ" รุ่นจิ๋ว ที่ผู้กับเต๋อถึงกับยกนิ้วให้

เปิดอ่าน 1,205 ครั้ง
ประโยชน์ของการเดิน
ประโยชน์ของการเดิน

เปิดอ่าน 184,342 ครั้ง
ปลาหมอสี วิธีการเลี้ยงปลาหมอสี อาหารปลาหมอสี
ปลาหมอสี วิธีการเลี้ยงปลาหมอสี อาหารปลาหมอสี
เปิดอ่าน 15,565 ครั้ง
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
เปิดอ่าน 18,805 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
เปิดอ่าน 13,103 ครั้ง
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
เปิดอ่าน 14,480 ครั้ง
ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ