ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์ รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิล

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์ รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้ศึกษา ชลาภา สายมงคล

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

ปีการศึกษา 2564

การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนวิชาดนตรี ศ 13101 (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 17 คน ซึ่งได้มาจากวิธีสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ตัวแปรต้น (Independent Variables) ได้แก่ รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตัวแปรตาม (Dependent Variables) ได้แก่ ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ใช้ระยะในการทดลองสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอน เรียนรู้ รวมทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถการคิดวิเคราะห์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน จำนวน 30 ข้อ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที แบบกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระ ค่าดัชนีประสิทธิผลและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนวิชาดนตรี ศ 13101 (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ สาเหตุของปัญหาการพัฒนาความสามารถในการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน จากการสนทนากลุ่มครูผู้สอน พบว่า มีสาเหตุมาจาก 3 ประการ ประการแรกคือ การจัดทำหลักสูตรส่วนกลางไม่เปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนวิชาดนตรีให้สอดคล้องกับบริบทในการสอนครูเพื่อให้นักเรียนปฏิบัติ ประการที่สอง ขาดสื่อนวัตกรรมที่สร้างใหม่เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติในท่ารำที่ถูกต้อง การใช้สื่อในการสอนไม่หลากหลายและไม่สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ธรรมชาติของวิชาและความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน และประการสุดท้าย คือด้านการวัดและประเมินผล การแจ้งวิธีการวัดและประเมินผล รวมทั้งเกณฑ์การให้คะแนนแก่นักเรียนไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจน จากความต้องการดังกล่าวจึงทำให้เกิดรูปแบบการสอนวิชาดนตรี โดยพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์ รำวงมาตรฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2.1 ได้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้ และขั้นตอนการจัดกิจกรรม 7 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (C = Condition) ขั้นนที่ 2 เริ่มการเรียนรู้อย่างมีความสุข (H = Happy Learning) ขั้นที่ 3 การปรับตัวเรียนรู้ (A = Adaptabilty) ขั้นที่ 4 การเรียนรู้ (L = Learning) ขั้นที่ 5 การชี้แจงข้อตกลงการฝึกปฏิบัติ (A = Aagreement) ขั้นที่ 6 กระบวนการการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน (P = Process) ขั้นที่ 7 การลงมือปฏิบัติจากการเรียนรู้ (A = Active Learning) โดยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน ได้นวัตกรรม ได้แก่ ชุดที่ 1 นาฎศิลป์รำวงมาตรฐานน่ารู้ ชุดที่ 2 ท่าจีบ ชุดที่ 3 ตั้งวง ชุดที่ 4 ยกเท้า- ก้าวเท้า –ก้าวข้าง ชุดที่ 5 กระทุ้งเท้า- กระดกเท้า ชุดที่ 6 ฝึกร้องรำทำท่านาฏยศัพท์พื้นฐาน และชุดที่ 7 รวมท่ารำฝึกปฏิบัตินาฏศิลป์ด้วยตัวเอง

2.2 ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 พบว่า ผลการทดลองแบบรายบุคคล มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 88.78/86.67 ผลการทดลองแบบกลุ่มเล็ก มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 88.23/90.00 และผลการทดลองแบบภาคสนามมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 89.24/89.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 89.84/90.59 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3.2 ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.8200 ซึ่งหมายความว่านักเรียนที่ได้ใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น 0.82 หรือคิดเป็นร้อยละ 82.00

4. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

4.1 คะแนนเฉลี่ยของผลพัฒนาทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ ก่อนเรียน มีคะแนนเท่ากับ 14.06 คะแนน และมีคะแนนหลังเรียนเท่ากับ 27.18 คะแนนเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนสอบทั้งสองครั้ง พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.2 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ Dramatic arts Chalapa MODEL ร่วมกับทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์รำวงมาตรฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

คำสำคัญ : ทฤษฎีเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ / ทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์/ รำวงมาตรฐาน

โพสต์โดย Chalapa : [8 ก.พ. 2566 เวลา 11:07 น.]
อ่าน [3454] ไอพี : 182.232.177.135
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,132 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

เปิดอ่าน 18,825 ครั้ง
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน

เปิดอ่าน 25,194 ครั้ง
“อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น”
“อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น”

เปิดอ่าน 15,073 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมชี้แจง เรื่องแนวทางการปรับเงินเดือน ขรก.ที่ปรับใหม่
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมชี้แจง เรื่องแนวทางการปรับเงินเดือน ขรก.ที่ปรับใหม่

เปิดอ่าน 9,982 ครั้ง
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน

เปิดอ่าน 18,787 ครั้ง
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566

เปิดอ่าน 19,531 ครั้ง
มาร์ติน วิลเลอร์ ฝรั่งบรรยายเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ที่สนุกมากกว่าทอล์คโชว์ เว้าภาษาอีสาน
มาร์ติน วิลเลอร์ ฝรั่งบรรยายเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ที่สนุกมากกว่าทอล์คโชว์ เว้าภาษาอีสาน

เปิดอ่าน 8,197 ครั้ง
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย

เปิดอ่าน 12,884 ครั้ง
มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง
มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง

เปิดอ่าน 10,535 ครั้ง
กันไว้ดีกว่าแก้ ผู้ใช้งานธนาคารออนไลน์ต้องอ่าน !
กันไว้ดีกว่าแก้ ผู้ใช้งานธนาคารออนไลน์ต้องอ่าน !

เปิดอ่าน 38,026 ครั้ง
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย

เปิดอ่าน 61,568 ครั้ง
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน

เปิดอ่าน 9,959 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (จบ)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (จบ)

เปิดอ่าน 19,586 ครั้ง
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่

เปิดอ่าน 9,074 ครั้ง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง

เปิดอ่าน 192,864 ครั้ง
บทบาทของครูในการเรียนรู้แบบ Active Learning
บทบาทของครูในการเรียนรู้แบบ Active Learning
เปิดอ่าน 15,641 ครั้ง
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ
เปิดอ่าน 20,985 ครั้ง
พิสูจน์พบ “น้ำแข็งแห้ง” เป็นหิมะตกบนดาวอังคาร
พิสูจน์พบ “น้ำแข็งแห้ง” เป็นหิมะตกบนดาวอังคาร
เปิดอ่าน 21,351 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
เปิดอ่าน 113,878 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ