ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ ด้วยตนเอง (Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน

ภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิด

วิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอน

ภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิด

วิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3)ศึกษาผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง

(Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) ประเมินความ

พึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่มีต่อการเรียนการสอน

ภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม อําเภอจักราช

จังหวัดนครราชสีมา จํานวน 1 ห้องเรียนมีนักเรียนจํานวน 27 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling) ตัวแปรอิสระ ได้แก่ รูปแบบการเรียน

การสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง(Constructivism) เพื่อเสริมสร้าง

ความคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้าน

ความสามารถคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่ได้รับการ

เรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ ด้วยตนเอง(Constructivism)

และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม ที่มีต่อการเรียน

การสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง(Constructivism)ใช้ระยะเวลาใน

การทดลองสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอน สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 สัปดาห์รวมทั้งสิ้น

14 ชั่วโมง โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรตู้ามแนวความคิดการสร้างความรู้ ด้วยตนเอง (Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 2 จํานวน 7 แผน ใช้เวลา 14 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ

การเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) สําหรับ

การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( X ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test

dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

และความต้องการในการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน มุ่งให้นักเรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง โดย

อาศัยความรู้เดิมเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ผ่านการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่ม ผู้สอนมี หน้าที่เสนอปัญหาให้นักเรียนเกิดความขัดแย้งทางปัญญาให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกัน

และกัน และคอยกระตุ้นให้นักเรียนได้สร้างความรู้ด้วยตนเอง และส่งเสริมในการคิดวิเคราะห์จะต้องเป็น

คนช่างสังเกต ช่างสงสัย ช่างซักถาม มีความกระตือรือร้นในการแสวงหาคําตอบ มีความสามารถใน

การตีความ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่จะวิเคราะห์และมีความสามารถในการหาความสัมพันธ์ เชิงเหตุผล เพื่อนมาพิจารณาตัดสินเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เป็นปัญหาได้อย่างถูกต้อง และมีเหตุผล

น่าเชื่อถือ

2. รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง

(Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 2 ที่ดําเนินการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ มีชื่อเรียกว่า “OETAR Model” มีองค์ประกอบคือ

ที่สําคัญคือ ดังนี้1) หลักการ แนวคิด ทฤษฎี2) สาระสําคัญ 3) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

4) จุดประสงค์5) สาระการเรียนรู้/เนื้อหา 6) กิจกรรมการเรียนรู้7) บทบาทครู8) บทบาทนักเรียน

9) สมรรถนะของผู้เรียน 10) คุณลักษณะอันพึงประสงค์11) ชิ้นงานและภาระงาน 12) แหล่งเรียนรู้ 13) การวัดและประเมินผล ในส่วนของกิจกรรมการเรียนรู้มี5 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 ขั้นแนะนํา

(Orientation: O) ขั้นที่ 2 ขั้นทบทวนความรู้เดิม (Elicitation of the Knowledge: E) ขั้นที่ 3

ขั้นปรับเปลี่ยนความคิด (Turning restructuring of ideas: T) ขั้นที่ 4 ขั้นนําความคิดไปใช้

(Application of ideas: A) ขั้นที่ 5 ขั้นทบทวน (Review: R) ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของ

รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)

เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

โดยผู้เชี่ยวชาญจํานวน 5 คน ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.80-1.00 และ ( X = 4.95, S.D.=

0.11) ซึ่งมีความเหมาะสมและสอดคล้องกัน และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียน

การสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) เพื่อเสริมสร้าง

ความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ

82.66/81.41 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้80/80 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1

รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)

เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น

มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์80/80

3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบ

การเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง(Constructivism)

เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า

การทดสอบค่าสถิติt = 16.31, df = 27 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังเรียนแตกต่าง

กันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 14.26 ส่วนเบี่ยงเบน

มาตรฐานเท่ากับ 3.47 และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 24.88 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.93

เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองขามพิทยาคม

จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทย

ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง(Constructivism) เพื่อเสริมสร้างความคิดวิเคราะห์และ

การรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4. ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองขามพิทยา

คม ที่มีต่อการเรียนการสอนภาษาไทย ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง(Constructivism)

พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( X = 4.04, S.D.= 1.25) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน

สามารถเรียงลําดับได้ดังนี้ด้านกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุดเป็นลําดับที่ 1 ( X = 4.20, S.D.=

1.18) รองลงมาคือ ด้านผู้เรียน ( X = 4.07, S.D .= 1.30) และลําดับที่ 3 คือ ด้านครูผู้สอน

( X = 3.86, S.D.= 1.23) เป็นลําดับสุดท้าย เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ

มากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ ลําดับที่ 1 ได้พัฒนาความสามารถการเรียนรู้ด้วยตนเอง ( X = 4.33, S.D.=

0.96) ลําดับที่ 2 ได้แก่ ส่งเสริมการพัฒนาการคิดของนักเรียน และได้ท้าทายความสามารถในการคิด

( X = 4.30, S.D.= 1.07) และลําดับที่ 3 ได้แก่ ส่งเสริมให้นักเรียนสร้างความรู้เข้าใจได้ด้วยตนเอง

( X = 4.26, S.D.= 0.13) ส่วนข้อที่มีคะแนนต่ําสุดอยู่ในด้านครูผู้สอน ได้แก่ ส่งเสริมให้มีการทํางาน

ร่วมกัน ( X = 3.70, S.D.= 1.46

โพสต์โดย อุ๋ : [6 ก.พ. 2566 เวลา 09:49 น.]
อ่าน [3311] ไอพี : 49.237.22.22
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,483 ครั้ง
ภูเขาไฟใต้น้ำปะทุ พ่นลาวา-ขี้เถ้า กลายเป็นเกาะเกิดใหม่ (มีคลิป)
ภูเขาไฟใต้น้ำปะทุ พ่นลาวา-ขี้เถ้า กลายเป็นเกาะเกิดใหม่ (มีคลิป)

เปิดอ่าน 23,056 ครั้ง
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค

เปิดอ่าน 259,857 ครั้ง
ประวัติเครื่องหมายหาร  (÷)
ประวัติเครื่องหมายหาร (÷)

เปิดอ่าน 32,826 ครั้ง
ดาวน์โหลด! นโยบายด้านการศึกษาของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)
ดาวน์โหลด! นโยบายด้านการศึกษาของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)

เปิดอ่าน 18,255 ครั้ง
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

เปิดอ่าน 14,788 ครั้ง
ADSL2/2+
ADSL2/2+

เปิดอ่าน 4,521 ครั้ง
อาหารแสลง คืออะไร
อาหารแสลง คืออะไร

เปิดอ่าน 12,962 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 18,606 ครั้ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง

เปิดอ่าน 16,474 ครั้ง
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน

เปิดอ่าน 10,684 ครั้ง
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

เปิดอ่าน 14,721 ครั้ง
5 นิสัยของคนประสบความสำเร็จ
5 นิสัยของคนประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 9,973 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ

เปิดอ่าน 26,202 ครั้ง
แมลงมีพิษกัดต่อย
แมลงมีพิษกัดต่อย

เปิดอ่าน 18,566 ครั้ง
ดาวน์โหลดคลิป "Youtube" โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม
ดาวน์โหลดคลิป "Youtube" โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม

เปิดอ่าน 13,724 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
เปิดอ่าน 14,294 ครั้ง
พัฒนาทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่สำเร็จในอนาคต
พัฒนาทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่สำเร็จในอนาคต
เปิดอ่าน 21,074 ครั้ง
เกมส์ลูกตุ้มแดนมังกร
เกมส์ลูกตุ้มแดนมังกร
เปิดอ่าน 23,050 ครั้ง
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?
เปิดอ่าน 12,188 ครั้ง
คู่มือตั้งงบ 58 (ฉบับแก้ไข)
คู่มือตั้งงบ 58 (ฉบับแก้ไข)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ