ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยและประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ชื่อเรื่อง การวิจัยและประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยกิจกรรม R: Reading คิด อ่าน เขียน ก้าวหน้า กับคอนโด 6 ชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการอ่าน การเขียนในชั้นเรียน โรงเรียนบ้านโพนเมือง

ผู้วิจัย นางสาวธาริณี มั่นคง

โรงเรียนที่ทำวิจัย โรงเรียนบ้านโพนเมือง ตำบลขะยูง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 2

โรงเรียนปัจจุบัน โรงเรียนบ้านตาโสม ตำบลตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยและประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยกิจกรรม R: Reading

คิด อ่าน เขียน ก้าวหน้า กับคอนโด 6 ชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านการเขียนในชั้นเรียน โรงเรียน

บ้านโพนเมือง ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินโครงการโดยใช้เทคนิคการประเมินแบบ CIPPIEST Model ตามแนวคิดของ Stufflebeam and Shinkfield (2007) ประกอบด้วยการประเมินใน 8 ด้าน คือ ด้านสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation)

ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation) ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) ด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation) และด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation)

2) เพื่อศึกษาความสำเร็จ ปัญหา อุปสรรค และประเด็นเสนอแนะเพื่อการพัฒนาโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเชิงประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) นักเรียนจำนวน 33 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratify random sampling) ซึ่งกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามสูตรของทาโร ยามาเน (Yamane) และกลุ่มตัวอย่างสำหรับการสนทนากลุ่ม (Focus group) ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) จำนวน 12 คน ระยะเวลาที่ใช้

ในการวิจัยคือ ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 3 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 ใช้สอบถามความคิดเห็นผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้สอบถามย่อย 8 ด้าน คือ ด้านบริบท

ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน

และด้านการถ่ายทอดส่งต่อ จำนวน 85 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.24 – 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 ฉบับที่ 2 ใช้สอบถามความคิดเห็นของนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ

ใช้สอบถามย่อย 4 ด้าน คือ ด้านผลผลิต ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้าน

การถ่ายทอดส่งต่อ สำหรับนักเรียน จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.35 – 0.72

และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิจัยและประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยกิจกรรม

R: Reading คิด อ่าน เขียน ก้าวหน้า กับคอนโด 6 ชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านการเขียน

ในชั้นเรียน โรงเรียนบ้านโพนเมือง โดยใช้เทคนิคการประเมินแบบ CIPPIEST Model ตามแนวคิด

ของ Stufflebeam and Shinkfield โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.50, S.D.= 0.65)

ข้อที่มีระดับคุณภาพมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ด้านผลผลิต (P: Product) อยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.58, S.D.= 0.60) รองลงมาคือ ด้านกระบวนการ (P: Process) อยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.56, S.D.= 0.61) และด้านผลกระทบ (I: Impact Evaluation) อยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.52, S.D.= 0.63) ส่วนข้อที่มีระดับคุณภาพน้อยที่สุด คือ ด้านการถ่ายโยงความรู้

(T: Transportability) อยู่ในระดับมาก ( = 4.40, S.D.= 0.71)

2. เพื่อศึกษาความสำเร็จ ปัญหา อุปสรรค และประเด็นเสนอแนะเพื่อการพัฒนาโครงการการดำเนินงานของโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยกิจกรรม R: Reading คิด อ่าน เขียน ก้าวหน้า กับคอนโด 6 ชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านการเขียนในชั้นเรียน โรงเรียนบ้านโพนเมือง พบว่า โรงเรียนมีการนำนโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การคิด อ่าน เขียน และการแก้ไขปัญหาการอ่านการเขียนในชั้นเรียน และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสู่การปฏิบัติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และประสิทธิผล นักเรียนมีความรู้ ทักษะ เจตคติ สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ดีขึ้น โรงเรียนมีสารสนเทศในกาบริหารจัดการโครงการ มีการบูรณาการการจัดกิจกรรมการคิด อ่าน เขียน

ในการจัดการเรียนรู้ มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชนมีส่วนร่วม มีการนำผลการวิจัยและประเมินไปใช้ มีการเผยแพร่ผลการดำเนินงานจนเกิดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และหน่วยงานในสังกัดได้เป็นอย่างดี แต่มีข้อจำกัด คือ บุคลากรไม่เพียงพอ งบประมาณ วัสดุ สื่อ อุปกรณ์ไม่เพียงพอ ซึ่งแก้ปัญหาด้วยการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้เพื่อให้โครงการเกิดประสิทธิภาพมีข้อเสนอแนะว่า ควรมีการวิเคราะห์องค์กร (SWOT Analysis) ควรขับเคลื่อนด้วยการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC: Professional Learning Community) การทำ MOU การสร้างเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Show and Share มีการขยายผล

โดยเป็นแหล่งศึกษาดูงาน และมีการยกย่อง เชิดชูเกียรตินักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน

โพสต์โดย cheva : [19 ม.ค. 2566 เวลา 19:22 น.]
อ่าน [3152] ไอพี : 49.228.48.219
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,112 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

เปิดอ่าน 1,689 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567

เปิดอ่าน 2,610 ครั้ง
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ

เปิดอ่าน 70,500 ครั้ง
เครื่องแบบข้าราชการ
เครื่องแบบข้าราชการ

เปิดอ่าน 16,104 ครั้ง
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ

เปิดอ่าน 14,559 ครั้ง
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี

เปิดอ่าน 12,344 ครั้ง
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009

เปิดอ่าน 27,945 ครั้ง
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 33,446 ครั้ง
เทคนิคการวิ่งไม่ให้ปวดเข่า
เทคนิคการวิ่งไม่ให้ปวดเข่า

เปิดอ่าน 10,228 ครั้ง
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 263,319 ครั้ง
การประดิษฐ์ของใช้และของตกแต่ง
การประดิษฐ์ของใช้และของตกแต่ง

เปิดอ่าน 9,677 ครั้ง
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร

เปิดอ่าน 14,519 ครั้ง
เสาวรสบำรุงสายตาและแก้อาการนอนไม่หลับ
เสาวรสบำรุงสายตาและแก้อาการนอนไม่หลับ

เปิดอ่าน 15,132 ครั้ง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง

เปิดอ่าน 60,830 ครั้ง
แนวปฏิบัติการดำเนินงานตาม พรบ. การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
แนวปฏิบัติการดำเนินงานตาม พรบ. การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545

เปิดอ่าน 14,240 ครั้ง
องค์ประกอบ ของความสำเร็จ
องค์ประกอบ ของความสำเร็จ
เปิดอ่าน 4,002 ครั้ง
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
เปิดอ่าน 11,563 ครั้ง
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากกรรมพันธุ์มากถึง 3 เท่า
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากกรรมพันธุ์มากถึง 3 เท่า
เปิดอ่าน 9,623 ครั้ง
พิชิตสุขภาพการเงินที่ดีใน 31 วัน
พิชิตสุขภาพการเงินที่ดีใน 31 วัน
เปิดอ่าน 14,180 ครั้ง
อย่าละเลยอาการไหล่ติด
อย่าละเลยอาการไหล่ติด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ