ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพ

ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ผู้วิจัย : ภัสร์จิราภา กองเงิน

ปีการศึกษา : 2564

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาของการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และ 4) เพื่อศึกษาผลการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตามลักษณะการเก็บข้อมูล ดังนี้ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาของการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (R1) กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 คน หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 1 คน ครูผู้สอน จำนวน 7 คน ผู้ดูแลเด็ก จำนวน 3 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 5 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 17 คน ระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (D1) กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 คน ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 5 คน และครูผู้สอน จำนวน 7 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 18 คน ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (R2) กลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 1 (3-4 ปี) จำนวน 40 คน เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 (4-5 ปี) จำนวน 26 คน และเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 (5-6 ปี) จำนวน 26 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 92 คน และระยะที่ 4 การประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (D2) กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 คน และครูผู้สอนจำนวน 7 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันปัญหา 2) แบบสัมภาษณ์ ฉบับที่ 2 แบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง (Structured Interview) 3) แบบประเมิน ฉบับที่ 3 แบบประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ (ร่าง) รูปแบบการบริหารจัดการ 4) แบบประเมิน ฉบับที่ 4 แบบประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย อายุ 3-6 ปี และ 5) แบบประเมิน ฉบับที่ 5 แบบประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาของการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า สภาพปัจจุบันปัญหาการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.95 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.72 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อ 4 การจัดสภาพแวดล้อม สื่อและแหล่งเรียนรู้ มีปัญหามากที่สุดเฉลี่ยเท่ากับ 4.15 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.75 รองลงมาข้อ 3 การวัดและประเมินผลพัฒนาการเด็ก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.04 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.61 ในขณะที่ข้อ 5 การนิเทศและพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีปัญหาน้อยที่สุดเฉลี่ยเท่ากับ 3.80 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.70 จากการสัมภาษณ์ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง (Structured Interview) พบว่า การพัฒนาและการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยควรมีการพัฒนา ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและด้านสติปัญญา เพราะมีความสำคัญต่อการจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กปฐมวัยในยุคปัจจุบันอยู่ในสังคมที่มีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การพัฒนาเด็กในแต่ละด้านจะต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน ทุกด้าน และบูรณาการให้เหมาะสมกับช่วงอายุหรือวัยของเด็ก จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีกิจกรรมที่หลากหลาย น่าสนใจ การพัฒนาโรงเรียนควรสอดคล้องกับสภาพปัจจุบันกับวิสัยทัศน์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ พันธกิจ และเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนดไว้ ครูทุกคนใช้ระบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่มุ่งเน้นเด็กเป็นสำคัญ จัดหางบประมาณ หาสื่อสำหรับการเรียนการสอนให้เพียงพอ จัดหาแหล่งงบประมาณมาทำการปรับปรุงพัฒนาอาคารเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ส่งเสริมให้บุคลากรได้เรียนรู้ อบรม แสวงหาความรู้มาพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จัดหาครูให้เพียงพอแก่เด็ก รวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพและเรียนรู้อย่างมีความสุข

2. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย องค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียน ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การบริหารจัดการการวางแผน การใช้กลยุทธ์ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ขั้นที่ 2 การบริหารจัดการโครงสร้างของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ขั้นที่ 3 การบริหารจัดการการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ขั้นที่ 4 การบริหารจัดการพัฒนาทีมงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ขั้นที่ 5 การบริหารจัดการการสร้างเสริมสุขภาพและการเรียนรู้ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ขั้นที่ 6 การบริหารจัดการสื่อการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และขั้นที่ 7 การบริหารจัดการการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 4) การวัดผลและประเมินผล และ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า โดยรวมเด็กมีพัฒนาการดีมากตามเกณฑ์ที่กำหนด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.54 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อ 4 เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ 2.71 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.54 รองลงมาข้อ 3 เด็กมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.66 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.47 ในขณะที่ข้อ 6 เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร

มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดเท่ากับ 2.42 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.53

4. ผลการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีดังนี้

4.1 รูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยรวมมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.49 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.53เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบ พบว่า องค์ประกอบที่ 4 การวัดผลและประเมินผล มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ 4.75 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.46 รองลงมาองค์ประกอบที่ 1 หลักการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.51 ในขณะที่องค์ประกอบที่ 3 ขั้นตอนการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดเท่ากับ 4.30 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.61

4.2 ความคิดเห็นการปรับปรุง แก้ไข รูปแบบการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ควรมีการปรับปรุงในแต่ละขั้นตอนเพียงเล็กน้อย

โพสต์โดย kratai : [13 ม.ค. 2566 เวลา 10:25 น.]
อ่าน [1814] ไอพี : 101.109.191.48
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,523 ครั้ง
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี

เปิดอ่าน 17,087 ครั้ง
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค

เปิดอ่าน 27,926 ครั้ง
พืชอเนกประสงค์
พืชอเนกประสงค์

เปิดอ่าน 24,794 ครั้ง
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 52,938 ครั้ง
เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี
เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี

เปิดอ่าน 13,940 ครั้ง
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551

เปิดอ่าน 10,980 ครั้ง
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น

เปิดอ่าน 13,252 ครั้ง
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก

เปิดอ่าน 12,517 ครั้ง
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม

เปิดอ่าน 10,633 ครั้ง
บัตรประชาชนทายรัก
บัตรประชาชนทายรัก

เปิดอ่าน 15,426 ครั้ง
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา

เปิดอ่าน 838 ครั้ง
ไลเซนต์ Open Source ต่างกับไลเซนต์อื่นอย่างไร?
ไลเซนต์ Open Source ต่างกับไลเซนต์อื่นอย่างไร?

เปิดอ่าน 16,560 ครั้ง
เคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยกำจัดความ "เขิน"
เคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยกำจัดความ "เขิน"

เปิดอ่าน 13,556 ครั้ง
PowerPoint  ประกอบการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)
PowerPoint ประกอบการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)

เปิดอ่าน 90,965 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)

เปิดอ่าน 824 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
เปิดอ่าน 23,959 ครั้ง
การวัดอุณหภูมิของอากาศ
การวัดอุณหภูมิของอากาศ
เปิดอ่าน 15,857 ครั้ง
สมุนไพรน่ารู้
สมุนไพรน่ารู้
เปิดอ่าน 14,592 ครั้ง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
เปิดอ่าน 14,897 ครั้ง
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ