เรื่อง การส่งเสริมทักษะด้านการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑
ความสำคัญและที่มา
ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติไทยที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาให้นักเรียนเกิดทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน โดยเฉพาะด้านการอ่าน แต่ในปัจจุบันการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยจะประสบกับปัญหาคือนักเรียนขาดทักษะด้านการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญและไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักเรียนไม่สามารถอ่านสะกดคำได้ถูกต้อง จากการสังเกตของครูผู้สอนวิชาภาษาไทยเห็นว่านักเรียนบางส่วนยังอ่านสะกดคำได้ไม่ถูกต้องทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นของตนเองและระดับชั้นที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงควรหาทางพัฒนาให้นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำและมีทักษะด้านการอ่านที่ดีขึ้นจึงทำให้มีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การส่งเสริมทักษะด้านการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมทักษะด้านการอ่านสะกดคำของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
เพื่อส่งเสริมทักษะด้านการอ่านสะกดคำของนักเรียน
ตัวแปรที่ศึกษา
จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑
กรอบแนวคิดในการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะด้านการอ่านสะกดคำวิชาภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ผู้วิจัยได้ทำแบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำเกี่ยวกับวิชาภาษาไทยซึ่งมีความยากง่ายกับระดับชั้นของนักเรียน จำนวน ๓ ชุด และใช้การเสริมแรงโดยวิธีการยกย่องชมเชย และให้คะแนนระหว่างทำกิจกรรม เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านการอ่านสะกดคำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำได้ถูกต้อง
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
3. นักเรียนสามารถนำทักษะด้านการอ่านสะกดคำไปใช้ในชีวิตได้
ขอบเขตการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการสร้างแบบฝึกเพื่อส่งเสริมทักษะด้านการอ่านสะกดคำวิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึก จำนวน ๓ ชุด เพื่อพัฒนาทักษะด้านการอ่านสะกดคำในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ มีขอบเขตการวิจัยครั้งนี้
1. จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑
๒. เนื้อหาวิชาภาษาไทยด้านการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
๓. แบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำ จำนวน ๓ ชุด
วิธีดำเนินการวิจัย
ระยะเวลาในการดำเนินการ
วัน เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ
พฤษภาคม ๒๕๖๕ ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา
มิถุนายน ๒๕๖๕ เลือกกลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑
มิถุนายน ๒๕๖๕ ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคำโดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการอ่าน ชุดที่ 1
กรกฎาคม ๒๕๖๕ ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคำโดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการอ่าน ชุดที่ 2
สิงหาคม ๒๕๖๕ ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคำโดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการอ่าน ชุดที่ ๓
กันยายน ๒๕๖๕ ทดสอบความสามารถในการอ่านสะกดคำโดยใช้แบบฝึกทักษะด้านการอ่าน ชุดที่ 1, 2 และ 3
ตุลาคม ๒๕๖๕ เก็บรวบรวมข้อมูล สรุปผลและวิเคราะห์ผลการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. ชุดกิจกรรมแบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำ จำนวน ๓ ชุด
2. การเสริมแรงระหว่างปฏิบัติกิจกรรมคำยกย่องชมเชยการให้คะแนน
3. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียน จากการอ่านแบบฝึกทักษะ
ด้านการอ่านสะกดคำ จำนวน ๓ ชุด
ชุดกิจกรรมที่ 1 แบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำ สระอา
ชุดกิจกรรมที่ 2 แบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำ สระอิ
ชุดกิจกรรมที่ 3 แบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำ สระโอ
สรุปผลการศึกษาวิจัย
จากการศึกษา และวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากการทำชุดแบบฝึกทักษะด้านการอ่านสะกดคำของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ตั้งแต่ครั้งที่ ๑ ๓ นั้นแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีการพัฒนาทักษะด้านการอ่านสะกดคำเพิ่มขึ้นจากเดิม นักเรียนสามารถทำคะแนนได้ดีขึ้นตามลำดับเป็นที่น่าพอใจ และจากการวิเคราะห์ผลการทดสอบเป็นรายบุคคลยังพบว่ามีนักเรียนที่มีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ต่ำถึงปานกลางเท่านั้นที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์เป็นรายบุคคลต่อไป ด้านการเสริมแรงขณะปฏิบัติกิจกรรมมีส่วนช่วยให้นักเรียนมีกำลังใจ และทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
๑. การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ อาจใช้รูปแบบอื่นนอกจากชุดกิจกรรมชุดที่ 1-๓ โดยอาจจะทำได้ในรูปของการเขียนตามคำบอก จับคู่โยงภาพกับคำก็ได้
2. การเสริมแรงขณะปฏิบัติกิจกรรมการให้กำลังใจ คำยกย่อง ชมเชย ทำให้นักเรียนมีกำลังใจมากขึ้น ควรใช้ในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติกิจกรรม