ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

ผู้วิจัย นายธีรวุฒิ ภูโสภา

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการ

สถานศึกษา โรงเรียนบ้านลาดใหญ่

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิเขต 1

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ปีการศึกษา 2565 จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .958 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการวิจัย

1. สภาพปัจจุบันของการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ ของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ พบว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ ของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ โดยภาพรวมและรายข้อ อยู่ในระดับ “มาก” เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ การวางแผนงานด้านวิชาการ รองลงมาคือการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือการประสานความร่วมมือในการพัฒนางานวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่น ตามลำดับ เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน มีผลการวิจัยดังนี้

1.1 ด้านการวางแผนงานด้านวิชาการ พบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดให้มีการจัดทำรายวิชาและคำอธิบายรายวิชา (รองลงมาคือจัดให้มีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดให้มีการกำหนดระเบียบวิธีการวัดและประเมินผล ตามลำดับ

1.2 ด้านการพัฒนาหรือดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาและชุมชน เช่น สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม รองลงมาคือจัดให้มีคณะกรรมการสถานศึกษาได้ศึกษาวิเคราะห์กรอบสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นตาม สพฐ. กำหนดไว้ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดให้มีการวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา เพื่อจะได้ทราบถึงจุดเน้นหรือประเด็นที่สถานศึกษาให้ความสำคัญ ตามลำดับ

1.3 ด้านการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดให้มีการวางแผนการใช้หลักสูตรของสถานศึกษา รองลงมาคือจัดให้มีการจัดหาสื่อการสอนและพัฒนาสื่อการสอน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดให้มีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ตามลำดับ

1.4 ด้านการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา ด้านการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดให้มีการจัดการเรียนรู้แบบประสบการณ์และที่เน้นการปฏิบัติ รองลงมาคือจัดการเรียนการสอนให้มีเนื้อหาสาระและกิจกรรมสอดคล้องกับความสนใจ และความถนัดของผู้เรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือครูผู้สอนได้ศึกษา วิเคราะห์ คัดเลือกหนังสือและสื่อการเรียนการสอน ตามลำดับ

1.5 ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดให้มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นและประสานความร่วมมือเครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและกระบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม รองลงมาคือการจัดบรรยากาศ การใช้สื่อ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการรักการอ่านและใฝ่รู้อย่างต่อเนื่องตามลำดับ

1.6 ด้านการวัดประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดทำมาตรฐาน กรอบเกณฑ์การประเมินเพื่อการเทียบโอนผลการเรียนของสถานศึกษา รองลงมาคือจัดให้มีการกำหนดระเบียบแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลของสถานศึกษา ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดให้มีการดำเนินการประเมินผลก่อนเรียนเพื่อตรวจสอบและปรับปรุงพื้นฐานของผู้เรียน ตามลำดับ

1.7 ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีการวางแผนแก้ไขปัญหาการพัฒนา รองลงมาคือจัดให้มีการสรุปผลการแก้ไขปัญหาการพัฒนาและนำไปปรับปรุงทุกขั้นตอน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ จัดให้มีการทำวิจัยในชั้นเรียน ตามลำดับ

1.8 ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา รองลงมาคือจัดระบบแหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษาให้เชื่อมต่อการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดทำเอกสาร รวบรวม เผยแพร่ แหล่งเรียนรู้แก่ครู บุคคล ครอบครัว องค์กร หน่วยงาน สถานศึกษาอื่นๆ ตามลำดับ

1.9 ด้านนิเทศการศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีการประเมินผลระบบและกระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษา รองลงมาคือจัดให้มีการประสานกับเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการนิเทศงานวิชาการและการเรียนการ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดระบบนิเทศงานวิชาการและการเรียนการสอนภายในสถานศึกษา ตามลำดับ

1.10 ด้านการแนะแนว โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก พิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีการติดตามและประเมินผลระบบและกระบวนการแนะแนวในสถานศึกษา รองลงมาคือจัดให้มีการดำเนินการแนะแนวและพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ จัดระบบการแนะแนวทางวิชาการและวิชาชีพภายในสถานศึกษา ตามลำดับ

1.11 ด้านพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดให้มีการกำหนดเกณฑ์การประเมิน เป้าหมายความสำเร็จของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา รองลงมาคือส่งเสริมให้ครูดำเนินการประกันคุณภาพภายใน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดระบบโครงสร้างองค์กรให้รองรับการจัดระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตามลำดับ

1.12 ด้านการส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีการดำเนินการส่งเสริมความรู้และประสบการณ์ให้กับชุมชน องค์กร หน่วยงานและสถาบันทางสังคมอื่นรองลงมาคือจัดให้มีการสนับสนุนให้ชุมชน สามารถเลือกภูมิปัญญาและวิทยากรต่างๆ เพื่อพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดให้ความรู้ เสริมสร้างความคิด และเทคนิคทักษะทางวิชาการเพื่อพัฒนาทักษะวิชาชีพ ตามลำดับ

1.13 ด้านประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่นโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือให้บริการด้านวิชาการที่สามารถเชื่อมโยงหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับแหล่งวิชาการในที่ รองลงมาคือสถานศึกษาได้ระดมทรัพยากรทางการศึกษา ตลอดจนวิทยากรภายนอกและภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ตามลำดับ

1.14 ด้านส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัวองค์กร หน่วยงาน และสถาบันอื่นที่จัดการศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สถานศึกษาได้ส่งเสริมครูให้ความรู้ด้านวิชาการแก่องค์กรอื่น และสถานศึกษาได้ส่งเสริมครูให้ความรู้ด้านวิชาการแก่องค์กรอื่น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือสถานศึกษาได้ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับชุมชน ตามลำดับ

1.15 ด้านจัดทำระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านวิชาการของสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีการนำระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับงานด้านวิชาการของสถานศึกษาไปสู่การปฏิบัติ รองลงมาคือจัดทำคู่มือพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ จัดให้มีการจัดทำหลักสูตรของสถานศึกษาอย่างชัดเจน ตามลำดับ

1.16 ด้านการคัดเลือกหนังสือ แบบเรียนเพื่อใช้ในสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือจัดให้มีหนังสือที่มี ภาพ ตาราง แผนภูมิ มีความถูกต้อง ชัดเจน และเป็นปัจจุบัน รองลงมาคือจัดให้มีหนังสือแบบเรียนที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรของการศึกษาขั้น ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ จัดให้มีหนังสือเป็นภาษาที่นำเสนอต้องถูกต้อง ชัดเจน สื่อความหมายอ่านเข้าใจง่าย ใช้ภาษาเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ใช้ศัพท์ถูกต้อง ตามลำดับ

1.17 ด้านการพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดหาสื่อเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนางานด้านวิชาการ รองลงมาคือจัดให้มีการส่งเสริมให้ครู ผลิต พัฒนาสื่อและนวัตกรรมการเรียนการสอนและการพัฒนางานด้านวิชาการ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือจัดให้มีการประเมินผลการพัฒนาการใช้สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตามลำดับ

2. ผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ ของโรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ จากการตอบแบบสอบถามเพื่อการวิจัยแบบสอบถามปลายเปิดมีผลการวิจัยดังนี้

1. โรงเรียนควรให้บุคลากรในโรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา

2. ผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียน ควรจัดให้มีการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องและให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการนิเทศ

3. ผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียน ควรส่งเสริมให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา

4. โรงเรียนบ้านลาดใหญ่ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ควรนำ ผลการศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารงานวิชาการไปใช้ในการวางแผน การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และการสนับสนุนการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเพื่อพัฒนางานวิชาการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โพสต์โดย ธีรวุฒิ : [28 ธ.ค. 2565 เวลา 12:45 น.]
อ่าน [3881] ไอพี : 223.205.247.36
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 92,779 ครั้ง
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์

เปิดอ่าน 21,017 ครั้ง
LearnSquare
LearnSquare

เปิดอ่าน 97,735 ครั้ง
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย

เปิดอ่าน 10,772 ครั้ง
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม

เปิดอ่าน 22,626 ครั้ง
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า

เปิดอ่าน 11,770 ครั้ง
คนค้นฅน ปลัดตงฉิน ผู้รักษาแผ่นดินเกิด
คนค้นฅน ปลัดตงฉิน ผู้รักษาแผ่นดินเกิด

เปิดอ่าน 14,284 ครั้ง
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ

เปิดอ่าน 11,017 ครั้ง
ระวัง! สารฟอกขาวในตะเกียบ
ระวัง! สารฟอกขาวในตะเกียบ

เปิดอ่าน 53,211 ครั้ง
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ "โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้" เต็มรูปแบบ
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ "โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้" เต็มรูปแบบ

เปิดอ่าน 19,905 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 17,816 ครั้ง
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 15,799 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8

เปิดอ่าน 24,737 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 25,560 ครั้ง
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คืออะไร

เปิดอ่าน 31,420 ครั้ง
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

เปิดอ่าน 12,131 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
เปิดอ่าน 30,150 ครั้ง
หลัก 10 ประการ ช่วยให้นอนหลับ
หลัก 10 ประการ ช่วยให้นอนหลับ
เปิดอ่าน 27,477 ครั้ง
ประกาศ
ประกาศ
เปิดอ่าน 13,806 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
เปิดอ่าน 15,453 ครั้ง
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ