ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2

ผู้ประเมิน นายวัชระ ชวีวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนประชารัฐบำรุง

อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2

ปีที่ประเมิน 2564

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง โดยใช้แบบจำลองซิปป์ (CIPP Model) เป็นแนวคิดของ สตัฟเฟิลบีม (Stufflebean) ซึ่งแบ่งการประเมินออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ประเมินด้านบริบทและสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) (Product Evaluation) และประเมินผลผลิต (Product Evaluation) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 299 คน ประกอบด้วย 1) ผู้ใช้บริการห้องสมุด ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 20 คน นักเรียนโรงเรียนประชารัฐบำรุง จำนวน 135 คน 2) ผู้ที่ไม่ได้ใช้บริการห้องสมุด ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน และผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประชารัฐบำรุง จำนวน 135 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม เพื่อประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 แบ่งเป็น 2 ตอน ดังนี้

1) แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นแบบตรวจสอบ (Checklist) สอบถามเกี่ยวกับเพศ อายุ และสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม และ 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 เป็นแบบสอบถาม มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ตามแบบของลิเคอร์ต (Likert) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการ พบว่า

ผลการการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2

1. การดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านบริบทและสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการดำเนินงาน และด้านผลผลิต ตามลำดับ เมื่อพิจารณาผลของการประเมินโครงการรายด้านสามารถสรุปได้ ดังนี้

1.1) ผลการประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนประชารัฐบำรุง มีความเห็นต่อด้านบริบทและสภาพแวดล้อม โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 โดยภาพรวมมีความสอดคล้องอยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.46, S.D. = 0.62) และเมื่อพิจารณารายข้อ โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ระยะเวลาดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด( ¯x = 4.86, S.D. = 0.38) อันดับรองลงมา ได้แก่ โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชน มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด ( ¯x = 4.84, S.D. = 0.37) และผู้บริหาร ครู บุคลากร และชุมชนเห็นความสำคัญ ส่งเสริม และสนับสนุนโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนประชารัฐบำรุง ( ¯x = 4.71, S.D. = 0.49) โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนประชารัฐบำรุง มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียนในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน อยู่ในระดับมากที่สุด( ¯x = 4.61, S.D. = 0.38) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียนไม่ต่อเนื่องและครอบคลุมนักเรียนทั้งหมด อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.06, S.D. = 0.66)ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

1.2) ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนประชารัฐบำรุง มีความเห็นต่อด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.32, S.D. = 0.60) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ผู้บริหารมีความรู้ความเข้าใจในหลักการและวิธีการในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และโรงเรียนจัดสรรงบประมาณการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง อย่างเหมาะสมและเพียงพอ อยู่ในระดับมากที่สุดเท่ากัน( ¯x = 4.86, S.D. = 0.38) อันดับรองลงมา ได้แก่ โรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.67, S.D. = 0.50) และห้องสมุดมีการบริหารจัดการ และการบริการที่ประทับใจ สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้รับบริการ อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.42, S.D. = 0.51) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ครูและบุคลากรที่รับผิดชอบโครงการ มีความรู้ ความเข้าใจ และมีประสบการณ์ในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน อยู่ในระดับมาก( ¯x = 3.89, S.D. = 0.60) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

1.3) ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนประชารัฐบำรุง มีความเห็นต่อด้านกระบวนการดำเนินงาน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.25, S.D. = 0.68) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการทราบ เพื่อตระหนักถึงความสำคัญและการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.35, S.D. = 0.53) อันดับรองลงมา ได้แก่ กิจกรรมที่ดำเนินการของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง เป็นไปตามกระบวนการ ขั้นตอนที่กำหนดในโครงการ และมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.33, S.D. = 0.65) และมีการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนประชารัฐบำรุง อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.33, S.D. = 0.67) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม การดำเนินการโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนประชารัฐบำรุง เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.07, S.D. = 0.56) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

1.4) ผลการประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนประชารัฐบำรุง มีความเห็นต่อด้านผลผลิต โดยมีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก( ¯x = 3.93, S.D. = 0.63) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ นักเรียน ผู้ปกครองและบุคคลในชุมชนใกล้เคียง มีความพึงพอใจต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนประชารัฐบำรุง อยู่ในระดับมากที่สุด( ¯x = 4.17, S.D. = 0.71) อันดับรองลงมา ได้แก่ นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน มีความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนประชารัฐบำรุง อยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.07, S.D. = 0.57) และนักเรียนสนใจ ติดตามหนังสือและวารสารใหม่ๆ ที่ห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอ อยู่ในระดับมาก ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ นักเรียนอ่านหนังสือทุกประเภท อยู่ในระดับมาก( ¯x = 3.72, S.D. = 0.72) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

การประเมินเปรียบเทียบระดับคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละรายวิชาในระดับ 3 ขึ้นไป กลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก 5 กลุ่มสารการเรียนรู้ (คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาไทย, ภาษาต่างประเทศ และสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม) ปีการศึกษา 2563 และปีการศึกษา 2564 โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า การประเมินผลผลิตของโครงการด้านระดับคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แต่ละรายวิชาในระดับ 3 ขึ้นไป กลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ (คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาไทย, ภาษาต่างประเทศ และสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม) ของโรงเรียนประชารัฐบำรุง เมื่อเปรียบเทียบปีการศึกษา 2563 กับ ปีการศึกษา 2564 ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น โดยเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามลำดับ

ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2

2. ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก( ¯x = 4.23, S.D. = 0.54) และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านผลผลิต ด้านกระบวนการดำเนินงาน และด้านบริบทและสภาพแวดล้อม ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาผลของการประเมินความพึงพอใจรายด้านสามารถสรุปได้ ดังนี้

2.1 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ด้านบริบทและสภาพแวดล้อม (Context) มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก( ¯x = 3.82, S.D. = 0.58) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง กำหนดวัตถุประสงค์สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน อยู่ในระดับมาก ( ¯x = 3.94, S.D. = 0.64) อันดับรองลงมา ได้แก่ โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมาก ( ¯x = 3.89, S.D. = 0.58) และผู้ปกครองนักเรียน และชุมชน เห็นความสำคัญ ส่งเสริม และสนับสนุนโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนประชารัฐบำรุง อยู่ในระดับมาก( ¯x = 3.83, S.D. = 0.62) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ โรงเรียนมีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ให้ผู้ปกครองและคนในชุมชนทราบ อยู่ในระดับมาก( ¯x = 3.67, S.D. = 0.49) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

2.2 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด( ¯x = 4.58, S.D. = 0.62) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.89, S.D. = 0.32) อันดับรองลงมาได้แก่ โรงเรียนมีสื่อ วัสดุ ครุภัณฑ์ สำหรับจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.72, S.D. = 0.46) และห้องสมุดมีทรัพยากรสารสนเทศ หนังสือ ตลอดจนสื่อต่าง ๆ ที่ทันสมัย มีเนื้อหาหลากหลายตรงกับความต้องการของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61, S.D. = 0.61) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ห้องสมุดมีระบบการบริหารจัดการ และการบริการที่ประทับใจ ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชน อยู่ในระดับมาก ( = 4.17, S.D. = 0.86) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

2.3 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า

1) ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process Evaluation) มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.20, S.D. = 0.43) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ มีการประเมินผลการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนประชารัฐบำรุง อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องด้วยวิธีการที่หลากหลายครบทุกกิจกรรม อยู่ในระดับมาก( = 4.42, S.D. = 0.51) อันดับรองลงมา ได้แก่ ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการกำกับ ติดตาม การจัดทำบันทึกรักการอ่าน ของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก ( = 4.33, S.D. = 0.65) และผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชน มีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนประชารัฐบำรุง อยู่ในระดับมาก ( = 4.17, S.D. = 0.58) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการทราบ เพื่อตระหนักถึงความสำคัญและการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมาก ( = 4.00, S.D. = 0.00) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

2) ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินกิจกรรมที่ดำเนินการของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง ตามกระบวนการ ขั้นตอน ที่กำหนดในโครงการ และมีความเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับ ( = 4.89, S.D. = 0.52) และเมื่อพิจารณารายกิจกรรม พบว่า กิจกรรมที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ กิจกรรมยอดนักอ่าน ( = 4.93, S.D. = 0.28) อันดับรองลงมา ได้แก่ กิจกรรมการบริการชุมชน ( = 4.80, S.D. = 0.49) และกิจกรรมบุคลากรรักการอ่าน ( = 4.73, S.D. = 0.53) ส่วนกิจกรรมที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กิจกรรมยุวบรรณารักษ์ ( = 4.53 , S.D. = 0.54) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

2.4 ผลการประเมินความพึงพอใจด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง พบว่า ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนประชารัฐบำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ด้านผลผลิต (Product Evaluation) มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก( = 4.33, S.D. = 0.54) และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ นักเรียนในปกครองของท่านมีพัฒนาการด้านทักษะการอ่านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ( = 4.42, S.D. = 0.54) ผู้ปกครองนักเรียนและชุมชน มีความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนประชารัฐบำรุง ( = 4.38, S.D. = 0.53) และนักเรียน ในปกครองของท่านยืมหนังสือ วารสาร จากห้องสมุดกลับไปอ่านที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ ( = 4.30, S.D. = 0.60) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนในปกครองของท่านสนใจและชักชวนเพื่อน พี่น้อง หรือ ผู้ปกครอง อ่านหนังสือทุกครั้งเมื่อมีเวลาว่าง ( = 4.28, S.D. = 0.50) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

โพสต์โดย หนุ่ม : [27 ธ.ค. 2565 เวลา 08:28 น.]
อ่าน [1916] ไอพี : 125.25.138.235
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,500 ครั้ง
เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ

เปิดอ่าน 18,872 ครั้ง
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์

เปิดอ่าน 20,509 ครั้ง
"เพลงอีแซว" การแสดงพื้นเมืองภาคกลาง
"เพลงอีแซว" การแสดงพื้นเมืองภาคกลาง

เปิดอ่าน 11,035 ครั้ง
รู้เท่าทัน ก่อนทานสมุนไพร-อาหารเสริม
รู้เท่าทัน ก่อนทานสมุนไพร-อาหารเสริม

เปิดอ่าน 13,531 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553

เปิดอ่าน 14,336 ครั้ง
10 อาหารดำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ
10 อาหารดำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 53,043 ครั้ง
เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"

เปิดอ่าน 70,466 ครั้ง
การตรวจสอบวุฒิการศึกษา
การตรวจสอบวุฒิการศึกษา

เปิดอ่าน 50,807 ครั้ง
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486

เปิดอ่าน 139,901 ครั้ง
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น

เปิดอ่าน 20,135 ครั้ง
24 กันยายน วันมหิดล
24 กันยายน วันมหิดล

เปิดอ่าน 24,745 ครั้ง
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย

เปิดอ่าน 10,805 ครั้ง
พบวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกระบาด เร่งวันตายยุงให้สั้น
พบวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกระบาด เร่งวันตายยุงให้สั้น

เปิดอ่าน 58,580 ครั้ง
รู้ไว้ใช้ว่า!! สรรพคุณ 12 อย่างของ "วิคส์ วาโปรับ"
รู้ไว้ใช้ว่า!! สรรพคุณ 12 อย่างของ "วิคส์ วาโปรับ"

เปิดอ่าน 241,451 ครั้ง
สารปรุงแต่งอาหารและสารพิษในอาหาร
สารปรุงแต่งอาหารและสารพิษในอาหาร

เปิดอ่าน 29,874 ครั้ง
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน
เปิดอ่าน 9,462 ครั้ง
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
เปิดอ่าน 34,595 ครั้ง
ฝึกอ่านอังกฤษกับนิทานโดยครูเชอรี่ English Bright
ฝึกอ่านอังกฤษกับนิทานโดยครูเชอรี่ English Bright
เปิดอ่าน 24,735 ครั้ง
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
เปิดอ่าน 10,340 ครั้ง
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ