ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ลำดับ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน มีความจำเป็นที่ต้องสอนในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งช่องทางการเรียนออนไลน์เป็นการเรียนที่เอื้อต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งผู้สอนและผู้เรียนไม่สามารถพูดคุยกันได้ อย่างเต็มที่

การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนในหลากหลายวิชานั้น วิชาที่สำคัญวิชาหนึ่ง คือ วิชาคณิตศาสตร์ (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2551) เพราะเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเหตุผล การคิด การฝึกกระบวนการแก้ปัญหา จึงเป็นวิชาที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนที่มีเหตุผล แก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม จึงทำให้วิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพื้นฐานในอีกหลายศาสตร์วิชา

การเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เมื่อเวลาเรียนจํากัด ทำให้ผู้เรียน ไม่มีเวลาให้คิดหาวิธีในการทำแบบฝึกหัดด้วยตนเอง ต้องให้ผู้เรียนเรียนเมื่อพร้อม จะทําให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้เพิ่มขึ้นจากความรู้เดิม และได้รับประสบการณ์ความรู้ใหม่ โดยครูไม่เป็นแต่เพียงผู้ให้ความรู้กับผู้เรียน แต่ผู้เรียนต้องมีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้ของตัวเองโดยการศึกษาหรือสืบค้นเพิ่มเติม

จากปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ผู้วิจัยมีความสนใจที่จะศึกษารูปแบบการเรียนการสอนโดยการใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง ลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพราะเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่น่าจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลา โดยที่นักเรียนทุกคนก็จะได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างเต็มที่ ทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการแสวงหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอีกด้วย วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 หลังการเรียนโดยการใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ มีดังนี้ 1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เรื่อง ลำดับ จำนวน 8 แผน เรื่อง ลำดับ 2 แผน เรื่อง ลำดับเลขคณิต 3 แผน เรื่อง ลำดับเรขาคณิต 3 แผน 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 3 เรื่อง ฟังก์ชัน ข้อสอบแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ ก่อนเรียน 1 ชุด 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 3 เรื่อง ฟังก์ชัน ข้อสอบแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ หลังเรียน 1 ชุด

สรุปผลการวิจัย

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.50 คิดเป็นร้อยละ 77.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

อภิปรายผลการวิจัย

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน เรื่อง ลำดับ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.30 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.54 และหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.50 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.63 และเมื่อเปรียบเทียบค่า t คำนวณ กับค่า t วิกฤต พบว่าค่า t คำนวณ มีค่ามากกว่าค่า t วิกฤต (35.73 > 2.093) จึงสามารถ สรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนเท่ากับ 15.50 คิดเป็นร้อยละ 77.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามที่ผู้วิจัยได้กำหนด

การสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้เรียนที่เรียนไม่ทันหรือไม่เข้าใจเนื้อหาสามารถดูซ้ำ ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา สร้างความรู้และประยุกต์ใช้ความรู้ให้ผู้เรียนได้มีเวลาเรียนรู้แบบรู้จริงและลงมือปฏิบัติมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียน หรือค้นคว้าความรู้เพิ่มเติม หรือจดเนื้อหาที่ไม่เข้าใจมาถามผู้สอน ทาให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนมากขึ้น ในประเทศไทยมีผู้ทดลองใช้วิธีจัดการเรียนรู้ แบบ “ห้องเรียนกลับด้าน” อย่างแพร่หลายรวดเร็วมาก มองในมุมหนึ่ง นี่คือวิธีใช้เวลาเรียนในห้องเรียนให้เกิดคุณค่าสูงสุดแก่ศิษย์คือใช้ฝึกประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้เกิดการเรียนแบบ “รู้จริง” (Mastery Learning)

โพสต์โดย PN : [21 ธ.ค. 2565 เวลา 18:04 น.]
อ่าน [65798] ไอพี : 110.169.128.117
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,813 ครั้ง
ห่วงโซ่อาหาร
ห่วงโซ่อาหาร

เปิดอ่าน 32,350 ครั้ง
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน

เปิดอ่าน 12,179 ครั้ง
ผลวิจัยใหม่ระบุ "ความสุข" ไม่ทำให้อายุยืน
ผลวิจัยใหม่ระบุ "ความสุข" ไม่ทำให้อายุยืน

เปิดอ่าน 14,975 ครั้ง
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559

เปิดอ่าน 12,309 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 15,755 ครั้ง
แตงโมเจลลี่ หวานฉ่ำสีสันสดใส ทำง่ายนิดเดียว
แตงโมเจลลี่ หวานฉ่ำสีสันสดใส ทำง่ายนิดเดียว

เปิดอ่าน 13,835 ครั้ง
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน

เปิดอ่าน 10,525 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

เปิดอ่าน 14,774 ครั้ง
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 83,702 ครั้ง
เคล็ดลับ13ประการในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับ13ประการในการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 618 ครั้ง
จัดการสต๊อกด้วยโปรแกรม ERP ลดปัญหาสต๊อกจม เพิ่มกระแสเงินสด
จัดการสต๊อกด้วยโปรแกรม ERP ลดปัญหาสต๊อกจม เพิ่มกระแสเงินสด

เปิดอ่าน 14,672 ครั้ง
รวมเมนูอาหารเจ
รวมเมนูอาหารเจ

เปิดอ่าน 58,073 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 23,451 ครั้ง
ว่านหางช้าง
ว่านหางช้าง

เปิดอ่าน 18,809 ครั้ง
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 8,944 ครั้ง
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดอ่าน 13,886 ครั้ง
แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ
แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 15,133 ครั้ง
สดชื่นยามเช้าสำหรับคนนอนดึก
สดชื่นยามเช้าสำหรับคนนอนดึก
เปิดอ่าน 74,081 ครั้ง
อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์
อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์
เปิดอ่าน 6,177 ครั้ง
สมรรถนะต่างประเทศ 4 ตัวอย่างหลักสูตร สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา
สมรรถนะต่างประเทศ 4 ตัวอย่างหลักสูตร สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ