บทคัดย่อ
การวิจัยรูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพของโรงเรียนวัดสองพี่น้อง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ 3) เพื่อประเมินและเปรียบเทียบผลการใช้รูปแบบ การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 6 ผู้ปกครองนักเรียน และ ผู้แทนชุมชน ของปีการศึกษา 2563 - 2564 จำนวน 228 คน ประกอบด้วย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 12 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน (ไม่นับรวมผู้บริหารโรงเรียนและตัวแทนครูที่เป็นคณะกรรมการสถานศึกษา) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 6 ปีการศึกษา 2563 ถึงปีการศึกษา 2564 จำนวน 86 คน (การเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)) เนื่องจากเป็นนักเรียนที่อ่านคล่อง เขียนคล่อง สามารถตอบแบบสอบถามได้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นไปตามวัตถุประสงค์) ผู้ปกครอง จำนวน 113 คน (กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซีและมอร์แกน (Krejecie & Morgan. 1970 : 608)) และ ผู้แทนชุมชน จำนวน 10 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพในครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 6 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที
ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพของโรงเรียนวัดสองพี่น้อง ตามความเห็นของนักเรียนและครู โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า ทุกรายการผ่านเกณฑ์การสำรวจ รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ความต้องการจำเป็นตามความคิดเห็นของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยในระดับมาก รองลงมาคือ ความต้องการจำเป็นตามความคิดเห็นของครู มีค่าเฉลี่ยระดับมากเช่นเดียวกัน ผลการสำรวจ พบว่า มีความต้องการจำเป็นให้พัฒนารูปแบบ
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพของโรงเรียนวัดสองพี่น้อง ผลจากสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ ปรากฏว่า ในโครงสร้างของรูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ ได้องค์ประกอบของรูปแบบโดยรวม 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์สภาพบริบท 2) การออกแบบการจัดการ โดยใช้หลักทฤษฎีเชิงระบบ หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม 3) การประเมินผล 4) การตรวจสอบ สู่ผลผลิตโรงเรียนคุณภาพ ครูคุณภาพ และ ผู้เรียนคุณภาพ โดยได้นำองค์ประกอบแต่ละขั้นตอนมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันให้เป็นรูปแบบที่มีความสมบูรณ์ และมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันเป็นหนึ่งเดียวที่ส่งผลร่วมกันในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวม เรียกว่า รูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพของโรงเรียนวัดสองพี่น้อง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 SPEC 3-Q MODEL โดยนำรูปแบบไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านคุณภาพการบริหารจัดการโรงเรียน การพัฒนาคุณภาพของครู และ การพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยใช้หลักทฤษฎีเชิงระบบ หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ ซึ่งได้รับการตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ทั้งด้านความเหมาะสม และความเป็นไปได้ เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดทั้งด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ คือ รูปแบบสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง รองลงมาคือ รูปแบบย่อยมีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ รูปแบบมีเนื้อหา ภาษา มีความกระชับ รัดกุม
3. เพื่อประเมินและเปรียบเทียบผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพของโรงเรียนวัดสองพี่น้อง
3.1 ผลการเปรียบเทียบการพัฒนาการบริหาร คุณภาพของโรงเรียน หลังจากการใช้รูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ ครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะการจัดการเรียนการสอน คุณภาพของครู หลังจากการใช้รูปแบบครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.3 ผลการเปรียบเทียบการเรียนรู้ คุณภาพผู้เรียน หลังการใช้รูปแบบครั้งที่ 1 กับ ครั้งที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อรูปแบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาสู่โรงเรียนคุณภาพ
4.1 ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักเรียน หลังการใช้รูปแบบครั้งที่ 1 กับ ครั้งที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.2 ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของครู หลังจากการใช้รูปแบบครั้งที่ 1 กับ ครั้งที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.3 ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา หลังจากการใช้รูปแบบครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05