ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลวิจัยในชั้นเรียนเรื่องการใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning ) ในรายวิชาสุขศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

“ การใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดทัพหลวง (หลวงพ่อเกิดอุปถัมภ์) โดยในครั้งแรกผู้วิจัยได้ให้ผู้เรียนทำการทดสอบก่อนเรียน (Pre Test) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผลการทดสอบอยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำ ผู้วิจัยจึงคิดให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถร่วมมือ ช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ โดยให้ผู้เรียนได้แบ่งกลุ่มโดยการคละนักเรียนที่มีความสามารถแตกต่าง ๆ กัน นักเรียนมีการแบ่งหน้าที่ภายในกลุ่มอย่างชัดเจน มีการปรึกษาหารือ ร่วมกันทำงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีความรับผิดชอบช่วยเหลือกันในการทำงาน ตลอดจนพากันทำงานจนสำเร็จตามเป้าหมาย โดยผู้วิจัยได้สังเกตจากพฤติกรรมการร่วมกันทำงานของผู้เรียนในแต่ละครั้ง และสุดท้ายมีการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดสอบหลังเรียน ( Post Test) ของผู้เรียนหลังการใช้เทคนิคที่กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 22 คน

อภิปรายผลและสะท้อนผล

ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบก่อนเรียน (Pre Test) และการทดสอบหลังเรียน (Post Test) สะท้อนให้เห็นว่า“การใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดทัพหลวง (หลวงพ่อเกิดอุปถัมภ์) มีค่าเฉลี่ยในระดับดีมากสูงขึ้น ทั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ผู้วิจัยได้วางไว้ว่า เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ ในรายวิชาสุขศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาสุขศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อนึ่ง ยังมีข้อสังเกตว่ามีนักเรียนจำนวน 2 คนที่ หลังจากได้ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ และ ทำการทดสอบหลังเรียน (Post Test) แล้วยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ ทั้งนี้ เนื่องจากผู้เรียนกลุ่มนี้ยังไม่รับผิดชอบเท่าที่ควร ขาดความเอาใจใส่ในการเรียนการสอน ไม่ตั้งใจทำแบบทดสอบ ซึ่งทำให้ระดับคะแนนเฉลี่ยของผู้เรียนกลุ่มนี้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าที่ควรจะเป็น

ดังนั้น สามารถสรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning ) ด้วยการให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มโดยการคละนักเรียนที่มีความสามารถแตกต่าง ๆ กันในการทำงาน เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ที่ดีกว่าการเรียนการสอนที่ครูเป็นผู้ให้ความรู้โดยตรงกับผู้เรียน สังเกตได้จากผู้เรียนที่มีผลการทดสอบหลังเรียน (Post Test) ในระดับดีมากและระดับดีมีจำนวนที่มากขึ้น

ข้อเสนอแนะ

ในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ผู้วิจัยพบปัญหาและข้อเสนอแนะดังนี้

1. การใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) นอกจากเป็นการฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบในการทำงานในทีมแล้ว ยังสามารถสร้างทักษะการตัดสินใจ ภาวะของการเป็นผู้นำผู้ตาม การยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อการทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย

2.ผู้สอนควรมีการชี้แนะหรือการสอนเพิ่มเติมให้นักเรียนบางคนที่ยังไม่สามารถทำงานได้สำเร็จ และมีผลการทดสอบที่ต่ำกว่าเกณฑ์ ให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น โดยอาจมีการปรับกิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนกลุ่มนี้

3. มีการนำผลจากการพัฒนาผู้เรียนโดยการใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ไปใช้หรือปรับให้เข้ากับสภาพปัญหาอื่น ๆ ของผู้เรียนในการเรียนการสอนคราวถัดไป

4. เทคนิคดังกล่าวไม่ควรใช้กับเนื้อหาที่มีมากเกินไป หากเนื้อหาที่ใช้สอนมีมากอาจต้องแบ่งเป็นการทำกิจกรรมเป็นครั้ง ๆ ไป

โพสต์โดย kapi : [16 พ.ย. 2565 เวลา 08:49 น.]
อ่าน [3376] ไอพี : 223.206.186.220
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,673 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน

เปิดอ่าน 348 ครั้ง
กรมอนามัย ย้ำ องุ่นไชน์มัสแคทยังคงปลอดภัย แนะเลือกกินผลไม้หลากหลายตามฤดูกาล ล้างผัก ผลไม้ตามคำแนะนำ มั่นใจทุกคำ ลดเสี่ยงสารพิษ
กรมอนามัย ย้ำ องุ่นไชน์มัสแคทยังคงปลอดภัย แนะเลือกกินผลไม้หลากหลายตามฤดูกาล ล้างผัก ผลไม้ตามคำแนะนำ มั่นใจทุกคำ ลดเสี่ยงสารพิษ

เปิดอ่าน 26,631 ครั้ง
โปรแกรม SnagIt
โปรแกรม SnagIt

เปิดอ่าน 125,748 ครั้ง
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)

เปิดอ่าน 34,755 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง

เปิดอ่าน 17,982 ครั้ง
จวกยับเนื้อหาวิชาสังคมฯ ม.4-6 ไม่ตรงข้อเท็จจริง
จวกยับเนื้อหาวิชาสังคมฯ ม.4-6 ไม่ตรงข้อเท็จจริง

เปิดอ่าน 16,605 ครั้ง
ดื่มน้ำ 8 แก้วไม่เพียงพอแล้ว
ดื่มน้ำ 8 แก้วไม่เพียงพอแล้ว

เปิดอ่าน 36,717 ครั้ง
 ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้สำหรับการกรอกใบสมัครงาน
ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้สำหรับการกรอกใบสมัครงาน

เปิดอ่าน 33,615 ครั้ง
โครงการเพชรในตม โครงการที่ให้ทุนนักเรียนเรียนครูเมื่อจบแล้วบรรจุเป็นครูโดยตรง
โครงการเพชรในตม โครงการที่ให้ทุนนักเรียนเรียนครูเมื่อจบแล้วบรรจุเป็นครูโดยตรง

เปิดอ่าน 8,943 ครั้ง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง

เปิดอ่าน 13,764 ครั้ง
การบวกเมตริก
การบวกเมตริก

เปิดอ่าน 14,163 ครั้ง
มาตรฐานข้อสอบและการให้เกรดในมหาวิทยาลัย: เกรดเฟ้อและเกรดฝืด
มาตรฐานข้อสอบและการให้เกรดในมหาวิทยาลัย: เกรดเฟ้อและเกรดฝืด

เปิดอ่าน 12,048 ครั้ง
"ยาชื่อสามัญ"... นามนั้นสำคัญฉะนี้
"ยาชื่อสามัญ"... นามนั้นสำคัญฉะนี้

เปิดอ่าน 15,912 ครั้ง
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อใหม่ไม่ยากอย่างที่คิด
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อใหม่ไม่ยากอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 16,250 ครั้ง
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559

เปิดอ่าน 18,909 ครั้ง
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
เปิดอ่าน 9,187 ครั้ง
โกจิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ชะลอความแก่
โกจิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ชะลอความแก่
เปิดอ่าน 31,506 ครั้ง
ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว
ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว
เปิดอ่าน 82,753 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม
เปิดอ่าน 14,507 ครั้ง
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ