ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564 โดยการประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP Model)

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564 โดยการประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการดำเนินงาน และผลผลิต จากโครงการส่งเสริมนิสัย รักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน รวมทั้งสิ้น 761 คน โดยกลุ่มของผู้บริหาร ได้มาจากวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 1 คน และรองผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 4 คน ส่วนกลุ่มของคณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ได้มาจากวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ (Proportionate Stratified Random Sampling) ซึ่งประกอบด้วย คณะครู จำนวน 84 คน นักเรียน จำนวน 336 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 336 คน รวมทั้งสิ้น 756 คน โดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่ และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยแบ่งแบบสอบถามออกเป็น 4 ชุด ประกอบด้วย

ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู เพื่อประเมินด้านบริบท (Context) จำนวน 15 ข้อ

ชุดที่ 2 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู เพื่อประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) จำนวน 18 ข้อ

ชุดที่ 3 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู เพื่อประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process) จำนวน 16 ข้อ

ชุดที่ 4 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน เพื่อประเมินด้านผลผลิต (Product) จำนวน 17 ข้อ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564

โดยการประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP Model) สรุปได้ ดังนี้

1.ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564

ตามความคิดเห็นของ ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู โดยรวมอยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับ

ความเหมาะสมมากที่สุด โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ ด้านกระบวนการดำเนินงาน ด้านผลผลิต และด้านปัจจัยนำเข้า

1.1 ด้านบริบท โดยรวมอยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า เกือบทุกข้ออยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายของโครงการมีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาและวัตถุประสงค์ของโครงการ มีวิธีการดำเนินงานของโครงการมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการในด้านส่งเสริมและปลูกฝังให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน ใฝ่เรียนรู้ ศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ตลอดจนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และการกำหนดหลักการของโครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน ครู และผู้ปกครองนักเรียน

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า เกือบทุกข้ออยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด โดยเรียงจาก

ค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ มีการกำหนดนโยบายและวิสัยทัศน์สนับสนุน ผู้บริหาร และคณะครู ที่รับผิดชอบการจัดกิจกรรมในโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องนโยบาย เป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ และมีงบประมาณสนับสนุนโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพียงพอ

1.3 ด้านกระบวนการดำเนินงาน โดยรวมอยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า เกือบทุกข้ออยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด

โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างชัดเจนเหมาะสม มีการประสานงานกับครูประจำชั้นและครูผู้สอนภาษาไทยในแต่ละระดับชั้น เพื่อจัดกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างทั่วถึง และมีการประชุมคณะกรรมการดำเนินงาน เพื่อปรึกษาหารือและร่วมกันวางแผนการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

1.4 ด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า เกือบทุกข้ออยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด โดยเรียงจาก

ค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครู และผู้ปกครองนักเรียน สนับสนุนส่งเสริมการจัดกิจกรรม โดยเน้นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่นักเรียน นักเรียนมีผลการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนดีขึ้น และโรงเรียนจัดแหล่งเรียนรู้และแหล่งค้นคว้าให้กับนักเรียน

2. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564

ตามความคิดเห็นของนักเรียน ด้านผลผลิต โดยรวมและรายข้อ อยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ นักเรียนมีสมุดบันทึกการอ่านของตนเอง นักเรียนมีความสุขจากการอ่านหนังสือจากสื่อทุกรูปแบบ และโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเกิดประโยชน์ต่อนักเรียน

3. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของโรงเรียนอนุบาลระยอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1 ปีการศึกษา 2564

ตามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน ด้านผลผลิต โดยรวมและรายข้อ อยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับ

ความเหมาะสมมากที่สุด โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย สามอันดับแรก ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครู และผู้ปกครองนักเรียน สนับสนุนส่งเสริมการจัดกิจกรรม

โดยเน้นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่นักเรียน นักเรียนมีสมุดบันทึกการอ่านของตนเอง และโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเกิดประโยชน์ต่อนักเรียน

โพสต์โดย Kru Ruang : [8 พ.ย. 2565 เวลา 22:55 น.]
อ่าน [3478] ไอพี : 223.24.146.51
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 33,721 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 18,541 ครั้ง
อาหารที่เคยคิดว่าดี แท้จริงคือตัวการทำร้ายสุขภาพ
อาหารที่เคยคิดว่าดี แท้จริงคือตัวการทำร้ายสุขภาพ

เปิดอ่าน 17,939 ครั้ง
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา

เปิดอ่าน 10,339 ครั้ง
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดี ทันตาเห็น
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดี ทันตาเห็น

เปิดอ่าน 49,940 ครั้ง
140 ที่สุดในโลก
140 ที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 34,079 ครั้ง
ครู
ครู

เปิดอ่าน 24,293 ครั้ง
ตัวหนังสือไทย
ตัวหนังสือไทย

เปิดอ่าน 21,334 ครั้ง
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?

เปิดอ่าน 19,591 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 14,294 ครั้ง
 8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010
8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010

เปิดอ่าน 3,405 ครั้ง
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร

เปิดอ่าน 15,540 ครั้ง
Web 2.0
Web 2.0

เปิดอ่าน 25,450 ครั้ง
หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary storage Unit)
หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary storage Unit)

เปิดอ่าน 63,349 ครั้ง
"ครูใจร้าย" คลิปสั้นสะท้อนบทบาทครูไทย (คลิปรางวัลชนะเลิศ เล่าเรื่องด้วยหัวใจจากศิษย์ถึงครู)
"ครูใจร้าย" คลิปสั้นสะท้อนบทบาทครูไทย (คลิปรางวัลชนะเลิศ เล่าเรื่องด้วยหัวใจจากศิษย์ถึงครู)

เปิดอ่าน 44,651 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น

เปิดอ่าน 12,732 ครั้ง
โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษครูอาชีวะทั่วประเทศ
โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษครูอาชีวะทั่วประเทศ
เปิดอ่าน 31,421 ครั้ง
ลายมือผู้ยิ่งใหญ่
ลายมือผู้ยิ่งใหญ่
เปิดอ่าน 9,542 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
เปิดอ่าน 10,042 ครั้ง
วันเกิด มหาตมา คานธี
วันเกิด มหาตมา คานธี
เปิดอ่าน 21,549 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ