|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผู้วิจัย นายอนุสรณ์ ปะทะวัง
หน่วยงาน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใน 5 ด้าน คือ ด้านอาคารสถานที่และ สิ่งอำนวยความสะดวกในสถานศึกษา ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ด้านการจัดการภัยพิบัติ ในสถานศึกษา ด้านการให้บริการความปลอดภัยและด้านสุขภาพอนามัยและการลดความเสี่ยง โดยดำเนินการตามกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (PAOR) ประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือ กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบ มีส่วนร่วม กลุ่มเป้าหมายและผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วย กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 67 คน ประกอบด้วย ครู จำนวน 43 คน และบุคลากรสนับสนุน จำนวน 24 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 15 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ หัวหน้างานทั้ง 4 งาน จำนวน 4 คน ครูผู้รับผิดชอบงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา จำนวน 1 คน และคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แบบสอบถามสภาพการดำเนินงาน ความปลอดภัยในสถานศึกษา 2) แบบบันทึกการประชุม 3) แบบสังเกต 4) แบบสัมภาษณ์ 5) แบบบันทึกการนิเทศ 6) แบบสอบถามทัศคติต่อสถานศึกษา และ 7) แบบทดสอบ ใช้การตรวจสอบข้อมูลหลายมิติ ข้อมูลเชิงปริมาณนำเสนอโดยใช้ตารางเปรียบเทียบ และนำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์ การประชุมกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม ทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาดีขึ้น แต่ครูบางส่วนยังไม่สามารถดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาได้สมบูรณ์ครบทั้ง 5 คือ 1) ด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานศึกษา ทั้งนี้เพราะสถานศึกษาหลายแห่งได้ก่อตั้งมา เป็นเวลานับสิบปี ซึ่งมีความชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งาน 2) ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ทั้งนี้ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด บริเวณอาคารต่าง ๆ ได้เปิดใช้มานานหลายปี ทำให้มีความชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งาน 3) ด้านการจัดการภัยพิบัติในสถานศึกษา ไม่มีมีการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการป้องกันภัยธรรมชาติ เนื่องจากไม่ค่อยมีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้น ทำให้เกิดความชะล่าใจ 4) ด้านการให้บริการความปลอดภัย การติดไฟฟ้าให้สว่างยังไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอต่อการใช้งาน 5) ด้านสุขภาพอนามัยและการลดความเสี่ยง มีการปฏิบัติน้อย เนื่องจากการจัดสวัสดิศึกษาเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการถ่ายทอดความรู้ ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องที่ผู้เรียนไม่เคยประสบเหตุ จึงทำให้เกิดความประมาท ผู้เรียนมีปัญหาด้านสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงของผู้เรียน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก 3 ส่วน คือ จากครู ประจำห้อง จากผู้ปกครองผู้เรียนและจากผู้เรียน เพื่อให้การพัฒนาได้ผลตามมาตรการดำเนินงาน ความปลอดภัยในสถานศึกษา
2. การพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์ การนิเทศแบบมีส่วนร่วม โดยครูทุกคนได้เสนอผลการดำเนินงานตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และการกำกับติดตามให้มากขึ้น ทำให้บุคลากรมีสมรรถภาพและความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานในการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา หลังพัฒนาสูงกว่าก่อนพัฒนา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 บุคลากรทุกคนสามารถดำเนินงานตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ได้ครบกระบวนการทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานศึกษา มีการปรับปรุงซ่อมแซม อาคารสถานที่ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ปรับปรุงซ่อมแซมประตู หน้าต่าง และพัดลมของห้องเรียน ให้มีสภาพการใช้งานได้ดี สำหรับใช้ปิด - เปิดให้อากาศถ่ายเทสะดวก 2) ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด บริเวณอาคารต่าง ๆ รอบศูนย์ให้มีความสะอาดปลอดภัย มีบรรยากาศที่ดี เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนจะช่วยให้ผู้เรียนมุ่งมั่นในการเรียนรู้ และสร้างศักยภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น 3) ด้านการจัดการภัยพิบัติในสถานศึกษา มีการสํารวจข้อมูลความเสี่ยงที่เกิดจากภัยธรรมชาติ มีการจัดทำแผนป้องกัน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการป้องกันภัยธรรมชาติ มีถังดับเพลิงติดตั้งทุกอาคาร และในบริเวณที่จำเป็น และตรวจสอบให้ใช้งานได้อยู่เสมอ 4) ด้านการให้บริการความปลอดภัย มีการจัดบริการ เอื้ออำนวยความสะดวกในการส่งเสริมความรู้ การให้ประสบการณ์นอกเหนือจากการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้สึกปลอดภัย และเกิดความพึงพอใจจากสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เหมาะสมให้ผู้เรียนได้มีศักยภาพที่สูงมากขึ้น เช่น มีการจัดโต๊ะเรียน เก้าอี้นั่งเรียน ที่นั่งในโรงอาหาร ที่นั่งพัก โดยจัดเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร มีการทำสัญลักษณ์แสดงจุดตำแหน่งชัดเจนในการจัดเว้นระยะห่างระหว่างกัน ติดไฟฟ้าให้สว่างทั่วถึงและเพียงพอ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) รวมถึง สื่อและเทคโนโลยีก็มีผลต่อความมั่นคงปลอดภัย 5) ด้านสุขภาพอนามัยและการลดความเสี่ยง มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ฝึกให้ผู้เรียนเกิดความระมัดระวังตนได้ดี โดยเริ่มจากการฝึกปฏิบัติจริง การให้ความรู้เรื่องใกล้ตัว เช่นเครื่องหมายและกฎจราจรหรือการให้สวัสดิศึกษา เกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย การหลีกเลี่ยงจากแหล่งมั่วสุม อบายมุข มีการตรวจสุขภาพประจำปี มีการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพและการบริการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้เรียน การเสริมสร้างสุขนิสัยที่ดีแก่ผู้เรียน การบริการอาหารกลางวันที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ส่งเสริมการออกกำลังกาย การเล่นกีฬาและนันทนาการในสถานศึกษา การประกันอุบัติเหตุของบุคลากรและผู้เรียน และห้องพยาบาลมียาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่เพียงพอ มีการประเมินพัฒนาการและสุขภาพอนามัยของผู้เรียน และหลังการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา มีทัศนคติต่อสถานศึกษาเกี่ยวกับการดำเนินงานความปลอดภัย โดยรวมอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และอยู่ในระดับดีทุกรายการ
โดยสรุป การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาโดยใช้กลยุทธ์ กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วมทำให้ครูมีการพัฒนาดีขึ้นจึงควรสนับสนุนส่งเสริมกลยุทธ์ดังกล่าว ไปใช้ตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาต่อไป
|
โพสต์โดย บืนมอ : [7 พ.ย. 2565 เวลา 18:09 น.] อ่าน [3310] ไอพี : 223.206.247.75
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 21,466 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,824 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,581 ครั้ง
| เปิดอ่าน 97,582 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,434 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,611 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,814 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,480 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,974 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,449 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,443 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,345 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,499 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,637 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,174 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 3,058 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,493 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,537 ครั้ง
| เปิดอ่าน 372,668 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,387 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|