ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวณิชาภา ฐปนสิทธางกูร

สาขาวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะตามแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือและการใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะตามแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือและการใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อพัฒนาคุณภาพทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะตามแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือและการใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ การจัดการเรียนรู้ศิลปะตามแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือและการใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) ปีการศึกษา 2565 ได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะฯ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และ ค่า T-test Dependent

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้ว่า สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ที่หลักสูตรกำหนดไว้มีความสำคัญในการกำหนด เป้าหมายการเรียนรู้และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน และการพัฒนาสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของหลักสูตร ซึ่งสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้เรียน ที่ผู้วิจัยได้พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2. ผลการสัมภาษณ์ครูผู้สอนศิลปะและการสนทนากลุ่มในการจัดการเรียนรู้ศิลปะ

- ประเด็นที่ 1 ควรให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะในศตวรรษที่ 21 ให้นักเรียนสามารถดำรงชีวิตและใช้ชีวิตในโลกอนาคตได้อย่างมีความสุข ทั้งด้านการดำเนินชีวิตและด้านหน้าที่การงาน สามารถปรับตัวให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง และยังสอดคล้องกับความต้องการของหลักสูตรแกนการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

- ประเด็นที่ 2 ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ศิลปะ มี 3 ด้าน คือ 1. ปัญหาที่เกิดจากครูผู้สอน 2. ปัญหาที่เกิดจากตัวผู้เรียน และ3. ปัญหาที่เกิดจากสื่อหรือเนื้อหา

- ประเด็นที่ 3 แนวทางการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ควรให้ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้อย่างเป็นขั้นตอนและชัดเจน ควรมีมีเทคนิควิธีสอนที่หลากหลาย โดยเน้นแนวการสอนที่เอื้อต่อการทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะและได้ความรู้ไปพร้อมกัน ควรสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดูเป็นกันเองกับผู้เรียน ไม่ตำหนิเมื่อผู้เรียนทำผิด หรือมีพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ให้ใช้วิธีชมเชยหรือให้รางวัลเมื่อผู้เรียนทำถูกหรือมีพฤติกรรมที่เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะสม และครูควรมีการสะท้อนผลกลับเพื่อให้นักเรียนได้ทราบความสามารถของตนเอง และนำข้อบกพร่องมาปรับปรุงและพัฒนาในการเรียนหรือร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ครั้งต่อไป

3. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยได้สังเคราะห์รูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะตามแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือและการใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล และ 5) ปัจจัยสนับสนุนความสำเร็จของการใช้รูปแบบ

4. ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นที่มีต่อความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวม พบว่า ประเด็นความเหมาะสมและความเป็นไปได้ มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุดทั้ง 2 ประเด็น (x̄ = 4.64, s.d.= 0.11) และ (x̄ = 4.67, s.d.=0.09 ) ตามลำดับ ซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการเรียนรู้ฯที่กำหนดไว้

5. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 15.53 และ 23.60 ตามลำดับ และจากตาราง t ซึ่งมี df = 29ค่า t ที่ได้ = 20.72 ค่า Sig.(2-tailed) = .000 ซึ่งค่าน้อยกว่า .01 แปลว่าผลการสอบ 2 ครั้งแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01

6. ผลการวิเคราะห์การประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวม พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคุณภาพในระดับดี (x̄ = 3.99, s.d.= 0.19)

7. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่าความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.67, s.d.= 0.13) ถือว่าผ่านเกณฑ์ของระดับความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่กำหนดไว้ทั้งในภาพรวม และรายด้าน ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ทั้งในภาพรวมและรายด้าน

โพสต์โดย nicha : [6 พ.ย. 2565 เวลา 06:58 น.]
อ่าน [3420] ไอพี : 184.22.143.173
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,696 ครั้ง
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย

เปิดอ่าน 17,407 ครั้ง
สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว
สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว

เปิดอ่าน 10,949 ครั้ง
จุดกำเนิดของ Google.com
จุดกำเนิดของ Google.com

เปิดอ่าน 20,550 ครั้ง
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 21,447 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 9,874 ครั้ง
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

เปิดอ่าน 24,096 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ

เปิดอ่าน 15,697 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย เเจ้ง ส่งไปรษณีย์ต้องแสดงบัตรประชาชน เริ่ม 8เม.ย.นี้
ไปรษณีย์ไทย เเจ้ง ส่งไปรษณีย์ต้องแสดงบัตรประชาชน เริ่ม 8เม.ย.นี้

เปิดอ่าน 18,954 ครั้ง
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน "บ้าน"
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน "บ้าน"

เปิดอ่าน 7,605 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่6
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่6

เปิดอ่าน 72,678 ครั้ง
ดูออนไลน์ ไม่ต้องโหลด! "ขยับกาย ขยายสมอง (Brain Gym) รวมเพลงบริหารสมอง BBL"
ดูออนไลน์ ไม่ต้องโหลด! "ขยับกาย ขยายสมอง (Brain Gym) รวมเพลงบริหารสมอง BBL"

เปิดอ่าน 24,943 ครั้ง
เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก
เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก

เปิดอ่าน 8,453 ครั้ง
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้

เปิดอ่าน 12,569 ครั้ง
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ

เปิดอ่าน 1,023 ครั้ง
ออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ต้องเริ่มยังไง
ออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ต้องเริ่มยังไง

เปิดอ่าน 63,311 ครั้ง
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน
เปิดอ่าน 2,489 ครั้ง
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้
เปิดอ่าน 24,593 ครั้ง
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
เปิดอ่าน 16,304 ครั้ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง
เปิดอ่าน 22,979 ครั้ง
สิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ใน แก้วมังกร
สิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ใน แก้วมังกร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ