ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนอนุบาลป่าบอน ปีการศึกษา 2564 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน

ปีการศึกษา 2564 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ระดับคุณภาพการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ปีการศึกษา 2564

2) การพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินโครงการ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินโครงการ 5) ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการดำเนินโครงการ คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น

5.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 (GPA) 5.2) ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) 5.3) สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 5.4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง ครูผู้สอน จำนวน 40 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 461 คน และกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง จำนวน 461 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ จำนวน 12 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.86-0.95 และแบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับสถานศึกษา

ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ป.6 ตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง แบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการประเมินข้อมูลด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูและผู้บริหารมีความคิดเห็นโดยรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.52, S.D.=0.28 ) ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นโดยรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.52, S.D.=0.27 ) เช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูและผู้บริหารมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.54, S.D.=0.24 ) ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นโดยรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.60, S.D.=0.21 )

ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่าทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูและผู้บริหารมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.51, S.D.=0.24 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผู้กครองมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยในระดับมากที่สุด

( x ̅=4.53, S.D.=0.22 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ( x ̅=4.59, S.D.=0.21 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ปีการศึกษา 2564 มีรายละเอียดดังนี้

4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร พบว่า

โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.52, S.D.=0.27 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า ผู้บริหาร ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องเรียนรู้และร่วมศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการจำเป็นเร่งด่วนของโรงเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.73,S.D.=0.64 ) รองลงมาคือ การมีส่วนร่วมในการกำหนดข้อตกลงหรือการปฏิบัติงานร่วมกัน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.67, S.D.=0.60 ) ส่วนรายการการส่งเสริมให้ครูมีเวลาหรืออำนวยความสะดวกให้ครูได้พบปะเพื่อสะท้อนผลการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนซึ่งกันและกัน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( x ̅=4.39, S.D.=0.77 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับนักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.54, S.D.=0.23 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านการมีสุขภาพกายสุขภาพจิตและสุขนิสัยที่ดี มีค่าเฉลี่ยคุณภาพสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.58, S.D.=0.41 ) รองลงมา คือด้านการรู้จักตนเองและพึ่งตนเองได้ มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.56, S.D.=0.36 ) ด้านการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด

( x ̅=4.54, S.D.=0.37 ) ด้านการมีทักษะในการหลีกเลี่ยงป้องกันอันตรายและพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.53, S.D.=0.28 ) ส่วนด้านการมีเจตคติที่ดีและมีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพสุจริตและด้านรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.52, S.D.=0.42 ) และ ( x ̅=4.52, S.D.=0.43 )

4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับนักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามความคิดเห็นของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.55, S.D.=0.24 ) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านการรู้จักตนเองและพึ่งตนเองได้ มีค่าเฉลี่ยคุณภาพสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.61, S.D.=0.31 ) รองลงมา คือ ด้านการมีเจตคติที่ดีและมีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพสุจริต มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.58, S.D.=0.40 ) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือด้านรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่าเฉลี่ย และ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.51, S.D.=0.40 )

4.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับนักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามความคิดเห็นของผู้ปกครอง พบว่า โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.56, S.D.=0.24 ) ได้คะแนนเฉลี่ยรวม 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านการรู้จักตนเองและพึ่งตนเองได้ มีค่าเฉลี่ยคุณภาพสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.62, S.D.=0.32 ) รองลงมา คือ ด้านรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.58, S.D.=0.34 ) ด้านการมีเจตคติที่ดีและมีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพสุจริต มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.57, S.D.=0.40 ) ตามลำดับ ส่วนด้านการมีทักษะในการหลีกเลี่ยงป้องกันอันตรายและพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.51, S.D.=0.34 )

4.5 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับนักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.56,

S.D.=0.20 ) ได้คะแนนเฉลี่ยรวม 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า

ด้านรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่าเฉลี่ยคุณภาพสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.67, S.D.=0.25 ) รองลงมา คือ ด้านการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม

มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.61, S.D.=0.41 ) ด้านการมีสุขภาพกายสุขภาพจิตและสุขนิสัยที่ดี มีค่าเฉลี่ยคุณภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.61, S.D.=0.26 ) ตามลำดับ

ส่วนด้านการมีทักษะในการหลีกเลี่ยงป้องกันอันตรายและพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( x ̅=4.47, S.D.=0.30 )

4.6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับนักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพและสามารถดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร นักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูและผู้บริหารมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.54, S.D.=0.23 ) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.55, S.D.=0.24 ) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผู้ปกครองมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.56, S.D.=0.24 ) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์

การประเมิน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.56, S.D.=0.20 ) ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.7 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินงานตามโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหาร นักเรียน และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความพึงพอใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.51, S.D.=0.29 ) ได้คะแนนเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.54, S.D.=0.26 ) ได้คะแนนเฉลี่ย 4 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผู้ปกครองมีความพึงพอใจมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅=4.52, S.D.=0.29 )

ได้คะแนนเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.8 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพผู้เรียน จำแนกได้ดังนี้

4.8.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 (GPA) 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนอนุบาลป่าบอน โดยภาพรวม พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 มีคะแนนเฉลี่ย GPA ร้อยละ 73.63 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.8.2 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) โรงเรียนอนุบาลป่าบอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 มีค่าคะแนนเฉลี่ย 46.60 มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าค่าคะแนนเฉลี่ยระดับชาติทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้คะแนนเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.8.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินสมรรถนะนักเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่าอยู่ในระดับ

ดี-ดีเยี่ยม ร้อยละ 93.10 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 7 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.8.4 ผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่าอยู่ในระดับดี-ดีเยี่ยม ร้อยละ 97.54 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 8 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

สรุปผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนอนุบาลป่าบอน

ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) มีค่าน้ำหนัก 100 ได้คะแนนเฉลี่ย 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาโครงการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ควรจัดให้มีโครงการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นโครงการต่อเนื่องในทุก ๆ

ปีการศึกษา

3. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

4. โรงเรียนควรพัฒนาการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

จนกลายเป็นวิถีของโรงเรียนที่มีความเด่นชัดและมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองสามารถเป็นแบบอย่างของโรงเรียนอื่นได้

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการหรือการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรนำรูปแบบการประเมินโครงการของ CIPP Model ไปปรับใช้กับการประเมินโครงการอื่น ๆ ในโรงเรียน เนื่องจากสารสนเทศที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการยกระดับพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่อไป

2. ควรมีการประเมินโครงการเชิงสาเหตุเพื่อให้ทราบว่าสาเหตุหรือปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของโครงการ ซึ่งจะทำให้เป็นแนวทางการนำมาปรับปรุงพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

3. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

โพสต์โดย kasjung13 : [4 พ.ย. 2565 เวลา 07:17 น.]
อ่าน [65625] ไอพี : 14.207.57.193
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,066 ครั้ง
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?

เปิดอ่าน 18,041 ครั้ง
ดื่มน้ำ 8 แก้วไม่เพียงพอแล้ว
ดื่มน้ำ 8 แก้วไม่เพียงพอแล้ว

เปิดอ่าน 11,498 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 800 ครั้ง
สินเชื่อส่วนบุคคล ตัวช่วยทุกความต้องการทางการเงินยามจำเป็น
สินเชื่อส่วนบุคคล ตัวช่วยทุกความต้องการทางการเงินยามจำเป็น

เปิดอ่าน 3,521 ครั้ง
อิทธิพลของดวงจันทร์
อิทธิพลของดวงจันทร์

เปิดอ่าน 13,439 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!

เปิดอ่าน 14,086 ครั้ง
จะให้ลูกเก่งเลข ต้องออกกำลัง
จะให้ลูกเก่งเลข ต้องออกกำลัง

เปิดอ่าน 31,920 ครั้ง
ธุรกิจเทคโนโลยีกับการคืนกำไรสู่สังคม
ธุรกิจเทคโนโลยีกับการคืนกำไรสู่สังคม

เปิดอ่าน 42,780 ครั้ง
น่าประทับใจการแสดงของนักเรียน พร้อมใจกันเต้นบาสโลป มุทิตาจิตแด่ครูผู้เกษียณอายุราชการ ปีการศึกษา 2559
น่าประทับใจการแสดงของนักเรียน พร้อมใจกันเต้นบาสโลป มุทิตาจิตแด่ครูผู้เกษียณอายุราชการ ปีการศึกษา 2559

เปิดอ่าน 15,816 ครั้ง
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว

เปิดอ่าน 8,974 ครั้ง
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 42,580 ครั้ง
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก

เปิดอ่าน 26,690 ครั้ง
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์

เปิดอ่าน 9,306 ครั้ง
School Change Maker festival พลิกโฉมโรงเรียน ป.1 อ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี
School Change Maker festival พลิกโฉมโรงเรียน ป.1 อ่านออกเขียนได้ใน 1 ปี

เปิดอ่าน 73,818 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562

เปิดอ่าน 9,584 ครั้ง
Smart Thailand
Smart Thailand
เปิดอ่าน 212,909 ครั้ง
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์
เปิดอ่าน 10,955 ครั้ง
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
เปิดอ่าน 24,967 ครั้ง
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เปิดอ่าน 11,443 ครั้ง
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ