ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร

ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นางสาวกัญจ์หทัย พรมกระทุ่มล้ม

ปีการศึกษา 2564

คำสำคัญ การประเมินโครงการ, โครงการประกันคุณภาพภายใน

บทคัดย่อ

การรายงานการประเมินโครงการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการ 2) เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการ 3) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการ โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ IPO Model (HartEditor, 2002 อ้างถึงใน วรรณภา ทองแดง,2551) ประชากรที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ครูและบุคลากร จำนวน 69 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 13 คน(ยกเว้นผู้บริหารกับผู้แทนครู) นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,273 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล 2-มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,273 คน รวม 2,628 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ประเมินด้านปัจจัยนำเข้าประกอบด้วย ครูและบุคลากร จำนวน 69 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน รวมจำนวนทั้งหมด 82 คน กลุ่มที่ 2 ประเมินด้านกระบวนการ คือครูและบุคลากร จำนวน 69 คน และกลุ่มที่ 3 ประเมินด้านผลผลิต เกี่ยวกับผลการรายงานการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย ครูและบุคลากร จำนวน 69 คน และนักเรียนชั้นอนุบาล 2- มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,273 คน รวม 1,342 คน ทั้ง 3 กลุ่มศึกษาจากประชากรทั้งหมด กลุ่มที่ 4 ประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับผลความสำเร็จของโครงการ ได้มาโดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง จากการเปิดตารางสำเร็จรูปของเครซีและมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่างจากครูและบุคลากร 15 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 3 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 144 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 144 คน รวมจำนวนทั้งหมด 306 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 4 รายการ ได้แก่ แบบประเมิน ด้านปัจจัยนำเข้า แบบประเมินด้านกระบวนการ แบบประเมินผลผลิต: ความพึงพอใจ และผลผลิต : แบบรายงานผลการประเมินคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมิน พบว่า

1) ผลประเมิ นด้านปั จจัยนำเข้ าของโครงการประกั นคุ ณภาพภายในของโรงเรียนบ้านสวนหลวง(รัตนวิจิตรพิทยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 พบว่า โดยภาพรวมมีความเพียงพอ/เหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (𝜇=4.75,𝜎=0.46) ทุกด้านอยู่มีความเพียงพอ/เหมาะสมในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านการอำนวยความสะดวก รองลงมา คือ ด้านครุและบุคลากร ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ วัสดุ/อุปกรณ์/สื่อ/เทคโนโลยี

2) ผลประเมินด้านกระบวนการของโครงการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 พบว่า โดยภาพรวมมีการปฏิบัติตามกระบวนการประกันคุณภาพภายใน ในระดับมากที่สุด (𝜇=4.86,𝜎=0.35) ทุกด้านมีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ จัดส่งรายงานผลประเมินตนเอง ( 𝜇=4.88, S.D=0.33) รองลงมาคือ กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และ

ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษของสถานศึกษา

3) ผลประเมินด้านผลผลิตของโครงการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านสวนหลวง(รัตนวิจิตรพิทยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564โดยแบ่งออกเป็น 2 รายการ พบว่า

3.1 ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผลประเมิน มีดังนี้

1) ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย พบว่ามาตรฐานที่ 1 คุณภาพเด็ก มีคุณภาพ ระดับยอดเยี่ยม สูงกว่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีคุณภาพ ระดับยอดเยี่ยม สูงกว่าเป้าหมาย และมาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการรณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีระดับคุณภาพ ระดับยอดเยี่ยม สูงกว่าเป้าหมาย

2) ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่ามาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน มีคุณภาพ ระดับดีเลิศ สูงกว่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและจัดการ มีคุณภาพระดับยอดเยี่ยม สูงกว่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีคุณภาพระดับดีเลิศ ตามเป้าหมาย

3.2 ผลกาประเมินผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการ พบว่าในภาพรวม มีความสำเร็จในระดับมากที่สุด ( x =4.69, S.D=0.60) ทุกด้านมีความสำเร็จในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รองลงมาคือ ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ คุณภาพผู้เรียน

โพสต์โดย kakun : [1 พ.ย. 2565 เวลา 07:16 น.]
อ่าน [2410] ไอพี : 14.207.121.20
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,977 ครั้ง
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?

เปิดอ่าน 146,220 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู

เปิดอ่าน 17,879 ครั้ง
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้

เปิดอ่าน 10,095 ครั้ง
กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่?
กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่?

เปิดอ่าน 8,989 ครั้ง
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน

เปิดอ่าน 15,005 ครั้ง
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย

เปิดอ่าน 4,894 ครั้ง
สมรรถนะต่างประเทศ 4 ตัวอย่างหลักสูตร สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา
สมรรถนะต่างประเทศ 4 ตัวอย่างหลักสูตร สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา

เปิดอ่าน 9,302 ครั้ง
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ

เปิดอ่าน 21,016 ครั้ง
การส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ส่งในย่าน VHF
การส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ส่งในย่าน VHF

เปิดอ่าน 14,104 ครั้ง
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว

เปิดอ่าน 12,468 ครั้ง
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้

เปิดอ่าน 12,428 ครั้ง
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ

เปิดอ่าน 41,781 ครั้ง
คุณภาพของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
คุณภาพของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

เปิดอ่าน 9,152 ครั้ง
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่

เปิดอ่าน 2,946 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 25,431 ครั้ง
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้
เปิดอ่าน 10,647 ครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
เปิดอ่าน 2,818 ครั้ง
"ยางอินเดีย" ไม้มงคลยอดฮิต ปลูกประดับบ้าน
"ยางอินเดีย" ไม้มงคลยอดฮิต ปลูกประดับบ้าน
เปิดอ่าน 60,995 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
เปิดอ่าน 7,003 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ