ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดศรี สำราญราษฎร์บำรุง (แช่มประชาอุทิศ) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง (แช่มประชาอุทิศ) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินไอโป (IPO) (สมหวัง พิธิยานุวัฒน์,2551 : 202)มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการใน 3 ด้าน คือ ด้านปัจจัยนำเข้า (Input ) ด้านกระบวนการดำเนินโครงการ (Process ) ด้านผลผลิตของโครงการ (Output ) ประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง (แช่มประชาอุทิศ) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 คือ คณะครู จำนวน 67 คน คณะกรรมการสถานศึกษาศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง (แช่มประชาอุทิศ)จำนวน 14 คน (ยกเว้นตัวแทนครู) รวมประชากร จำนวน 81 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ คือ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 จำนวน 278 คน ซึ่งได้มาโดยใช้ตาราง Krejcie & Morgan (สิทธิ์ ธีรสรณ์, 2552 : 114) รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 278 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 ประเมินปัจจัยนำเข้า ฉบับที่ 2 ประเมินกระบวนการ ฉบับที่ 3 ประเมินด้านผลผลิต เป็นแบบประเมินลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า และฉบับที่ 4 เป็นแบบบันทึกข้อมูล ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และผลการประเมินทักษะชีวิต วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากประชากร และค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนจากกลุ่มตัวอย่าง จากการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมิน ด้านปัจจัยนำเข้า(Input) ตามความคิดเห็นของคณะครู ในภาพรวม พบว่า ระดับความสอดคล้องอยู่ในระดับมาก ( = 4.48, σ = 0.52) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ความเหมาะสมของบุคลากร มีระดับความสอดคล้อง อยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.68,  = 0.62) และ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรม ระดับความสอดคล้อง อยู่ในระดับมาก ( = 4.16,  = 0.50)

ผลการประเมิน ด้านปัจจัยนำเข้า(Input) ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวม พบว่า ระดับความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.50, σ = 0.54) เมื่อพิจารณารายด้าน โดยพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ความเหมาะสมของบุคลากร มีระดับความเหมาะสม ในระดับมากที่สุด ( = 4.57,  = 0.52) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความเหมาะสมของทรัพยากร ระดับความเหมาะสม ในระดับมาก ( = 4.38,  = 0.50)

2. ผลการประเมินด้านกระบวนการ(Process) ตามความคิดเห็นของครู ในภาพรวม พบว่ามีระดับการปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก ( = 4.30, σ = 0.49) เมื่อพิจารณารายด้าน โดยพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ด้านกระบวนการวางแผน(Plan) มีระดับปฏิบัติ ในระดับมากที่สุด ( = 4.59,

 = 0.49) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การกำกับนิเทศติดตามและประเมินผล (Check) ระดับปฏิบัติ ในระดับมาก ( = 4.22,  = 0.52)

3. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Output) พบว่า ทักษะชีวิตของนักเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามความคิดเห็นของคณะครู ภาพรวม พบว่ามีพฤติกรรม อยู่ในระดับมาก (=4.49,=0.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ได้แก่ นักเรียนวิธีการในการศึกษาความรู้เพิ่มเติมเพื่อขยายประสบการณ์ไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ตามความสนใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.77, = 0.43) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ได้แก่ นักเรียนมีวินัย อยู่ในระดับมาก ( = 4.29, = 0.65)

ทักษะชีวิตของนักเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามความคิดเห็นของคณะครู ภาพรวม พบว่า มีพฤติกรรม อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.51,S.D.= 0.57) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ได้แก่ นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75,S.D. = 0.43) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ได้แก่ นักเรียนมีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่ในระดับมาก ( = 4.27,S.D. = 0.46)

ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง (แช่มประชาอุทิศ) ปีการศึกษา 2564 พบว่า นักเรียนที่ได้ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับดีเยี่ยมขึ้นไป จำนวน 908 คน คิดเป็นร้อยละ 88.07 ซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ (ร้อยละ 80)

ผลการประเมินทักษะชิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง (แช่มประชาอุทิศ) ปีการศึกษา 2564 พบว่า นักเรียนที่ได้ผลการประเมินทักษะ ระดับดีเยี่ยมขึ้นไป จำนวน 962 คน คิดเป็นร้อยละ 93.31 ซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ (ร้อยละ 80)

โพสต์โดย Banchob : [31 ต.ค. 2565 เวลา 17:19 น.]
อ่าน [2876] ไอพี : 184.22.55.35
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 92,845 ครั้ง
รวมข้อมูลหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
รวมข้อมูลหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 27,593 ครั้ง
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม?  วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม? วิชาที่คนไม่เข้าใจ

เปิดอ่าน 9,801 ครั้ง
Google "ค้นหา" ข้อมูลเก่งขึ้น
Google "ค้นหา" ข้อมูลเก่งขึ้น

เปิดอ่าน 35,072 ครั้ง
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 12,178 ครั้ง
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society

เปิดอ่าน 16,748 ครั้ง
"ศุภโชค"
"ศุภโชค"

เปิดอ่าน 14,685 ครั้ง
เตือนน้ำมังคุด ไม่ได้ช่วยรักษาโรค
เตือนน้ำมังคุด ไม่ได้ช่วยรักษาโรค

เปิดอ่าน 21,858 ครั้ง
เรื่องของไม้ขีดไฟ
เรื่องของไม้ขีดไฟ

เปิดอ่าน 15,638 ครั้ง
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!

เปิดอ่าน 41,659 ครั้ง
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย

เปิดอ่าน 12,080 ครั้ง
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก

เปิดอ่าน 11,775 ครั้ง
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?

เปิดอ่าน 4,295 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!

เปิดอ่าน 25,844 ครั้ง
ปราบชิคุนกุนยาด้วยสมุนไพร
ปราบชิคุนกุนยาด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 18,666 ครั้ง
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

เปิดอ่าน 11,270 ครั้ง
สีเขียว ช่วยให้คุณครีเอทีฟ
สีเขียว ช่วยให้คุณครีเอทีฟ
เปิดอ่าน 10,823 ครั้ง
คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
เปิดอ่าน 29,018 ครั้ง
เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง
เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง
เปิดอ่าน 15,730 ครั้ง
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30
เปิดอ่าน 10,987 ครั้ง
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ