ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร
ผู้ศึกษา นางสาวอรวรรณ เที่ยงดาห์
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร 2) เพื่อหาแนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร โดยใช้แนวคิดการประเมินเชิงระบบ (System Approach) มีกรอบในการประเมินเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการดำเนินงาน และด้านผลผลิต การดำเนินการศึกษาเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน ครู จำนวน 34 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน นักเรียน จำนวน 118 คน และ ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 118 คน ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น จำนวน 285 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาขั้นตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามแบบมาตรส่วน 5 ระดับ จำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการดำเนินงาน และด้านผลผลิตของโครงการ ฉบับที่ 2 แบบสอบถามสำหรับนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ด้านผลผลิตของโครงการ ขั้นตอนที่ 2 แนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร โดยการสัมภาษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาขั้นตอนที่ 2 เป็น แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า
1. ผลการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ซึ่งประเมินโดย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสิน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านกระบวนการดำเนินงาน อยู่ระดับมากที่สุด ลำดับต่อมา คือ ด้านปัจจัยเบื้องต้น อยู่ระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านผลผลิต อยู่ระดับมากที่สุด และทุกด้านผ่านเกณฑ์การประเมิน
1.1 ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสิน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ งบประมาณ อยู่ระดับมากที่สุด ลำดับต่อมา คือ บุคลากรดำเนินงาน อยู่ระดับมากที่สุด และสถานที่ อยู่ระดับมากที่สุด ตามลำดับ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ วัสดุ อุปกรณ์และเทคโนโลยี อยู่ระดับมาก และทุกข้อผ่านเกณฑ์การประเมิน
1.2 ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสิน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การประเมินผลและปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงาน อยู่ระดับมากที่สุด ลำดับต่อมา คือ การเตรียมการจัดกิจกรรม อยู่ระดับมากที่สุด และการดำเนินกิจกรรม อยู่ระดับมากที่สุด ตามลำดับ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การตรวจสอบการดำเนินงาน อยู่ระดับมากที่สุด และทุกข้อผ่านเกณฑ์การประเมิน
1.3 ผลการประเมินด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสิน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนา ป้องกันและแก้ไขปัญหา ตรงตามสภาพปัญหาอย่างเหมาะสม อยู่ระดับมากที่สุด ลำดับต่อมา คือ นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรียนรู้และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข อยู่ระดับมากที่สุด และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ โรงเรียนมีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ อยู่ระดับมาก และทุกข้อผ่านเกณฑ์การประเมิน
2. ผลการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ด้านผลผลิต ซึ่งประเมินโดย นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสิน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือนักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรียนรู้และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข อยู่ระดับมาก ลำดับต่อมา คือ นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนา ป้องกันและแก้ไขปัญหา ตรงตามสภาพปัญหาอย่างเหมาะสม อยู่ระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ โรงเรียนมีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ อยู่ระดับมาก และทุกข้อผ่านเกณฑ์การประเมิน
3. ผลการหาแนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง 9 ท่าน
3.1 แนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ด้านปัจจัยเบื้องต้น ควรดำเนินการดังนี้ ในอันดับแรก ได้แก่ สถานศึกษาควรมีการพัฒนาการทำงานร่วมกับเครือข่ายในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีประสิทธิภาพ (ความถี่ 9) และ ควรส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาในการดำเนินงาน เช่นการจัดเก็บข้อมูลส่วนกลางเพื่อใช้เป็นสารสนเทศของโรงเรียนด้วยระบบออนไลน์ รวมทั้งมีเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การสนับสนุนให้ครูมีช่องทางการให้คำปรึกษาในรูปแบบที่สะดวก รวดเร็วขึ้น โดยอาศัย สื่อสังคมออนไลน์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ เป็นต้น (ความถี่ 9)
3.2 แนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ด้านกระบวนการดำเนินงาน ควรดำเนินการดังนี้ ในอันดับแรก ได้แก่ ควรส่งเสริมเรื่องการประสานความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียน ชุมชนและผู้ชำนาญในสาขาต่างๆ เพื่อให้มีการส่งต่อและรับช่วงการแก้ไข การติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานที่ส่งต่อนักเรียนอย่างใกล้ชิดและรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆตลอดจนส่งเสริมการพัฒนานักเรียนในรูปแบบสหวิทยาการและสหวิชาชีพ (ความถี่ 9) รองลงมา ได้แก่ สถานศึกษาควรมีนำกระบวนการ PLC (Professional Learning Community) มาใช้ในการพัฒนาการดำเนินงานแต่ละกิจกรรมของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน (ความถี่ 6) และ ผู้บริหารสถานศึกษาควรมอบหมายงานให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล เนื่องจากกิจกรรมของโครงการมีหลายกิจกรรมที่ต้องอาศัยผู้ปฏิบัติที่มีความรู้และทักษะเฉพาะด้าน และควรสนับสนุนให้มีการประสานการปฏิบัติงานระหว่างผู้รับผิดชอบโครงการ ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ (ความถี่ 5)
3.3 แนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ด้านผลผลิต ซึ่งประเมินโดย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการดังนี้ ในอันดับแรก ได้แก่ สถานศึกษาควรมีการพัฒนาการทำงานร่วมกับเครือข่ายในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีประสิทธิภาพ (ความถี่ 9) รองลงมา ได้แก่ สถานศึกษาควรมีการปรับปรุงพัฒนานวัตกรรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและมีประสิทธิภาพมากขึ้น (ความถี่ 7) และ สถานศึกษาควรมีการสำรวจความต้องการของนักเรียนและความถนัดของครู/วิทยากรในท้องถิ่นที่มีความรู้ความสามารถตามความต้องการของนักเรียน และจัดให้มีกิจกรรมชุมนุมตามความถนัด ความสนใจและความสามารถของนักเรียน (ความถี่ 7)
3.4 แนวทางพัฒนาการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนคณฑีพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากำแพงเพชร ด้านผลผลิต ซึ่งประเมินโดย นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ควรดำเนินการดังนี้ ในอันดับแรก ได้แก่ สถานศึกษาควรพัฒนากระบวนการรับฟัง แลกเปลี่ยน สื่อสาร ความคิดเห็น ความต้องการต่างๆ ระหว่างสถานศึกษากับนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน เพื่อให้เกิดการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่สอดคล้องกับปัญหา ความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองอย่างแท้จริง (ความถี่ 9) รองลงมา ได้แก่ สถานศึกษาควรมีการสำรวจความต้องการของนักเรียนและความถนัดของครู/วิทยากรในท้องถิ่นที่มีความรู้ความสามารถตามความต้องการของนักเรียน และจัดให้มีกิจกรรมชุมนุมตามความถนัด ความสนใจและความสามารถของนักเรียน (ความถี่ 8) และ สถานศึกษาควรประเมินความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนต่อการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน (ความถี่ 7)