|
|
ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลวิธี STAR
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ผู้วิจัยสุ่มตัวอย่างประชากรโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) จากการจับฉลาก 1 ห้องเรียน จากทั้งหมด 11 ห้องเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดผู้เรียนแต่ละห้องแบบคละความสามารถ ได้กลุ่มตัวอย่าง 1 ห้องเรียน จำนวน 45 คน
การดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยดำเนินการวัดทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น จำนวน 4 ข้อ โดยใช้เวลาในการทดสอบ 50 นาที (ทดสอบก่อนเรียน) หลังจากนั้นจึงดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธี STAR ที่ครอบคลุมเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง ความน่าจะเป็น จำนวน 8 คาบ เมื่อดำเนินการสอนครบตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่กำหนดแล้ว ผู้วิจัยใช้แบบวัดทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์จำนวน 4 ข้อ โดยใช้เวลาในการทดสอบ 50 นาที (ทดสอบก่อนเรียน) หลังจากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปผลการวิจัย โดยนำคะแนนที่ได้รับจากแบบวัดทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ทั้งก่อนเรียนและหลังเรียน มาหาค่ามัชฌิมเลขคณิตเพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสถิติการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น หลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลวิธี STAR สูงกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลวิธี STAR อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
|
โพสต์โดย นายทินกร พานจันทร์ : [25 ต.ค. 2565 เวลา 12:40 น.] อ่าน [3186] ไอพี : 49.237.42.109
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,749 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,527 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,380 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,894 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,192 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,923 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,035 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,148 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,916 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,714 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,805 ครั้ง
| เปิดอ่าน 118,213 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,702 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,104 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,953 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 63,724 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,425 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,234 ครั้ง
| เปิดอ่าน 68,201 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,134 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|