ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
ผู้วิจัย นางเพ็ญพิศ ฉายอำไพ
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล ๔ เฉลิมพระเกียรติ สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
ปีที่ทำการวิจัย ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ เพื่อเสริมสร้างทักษะ
การอ่านสะกดคำภาษาไทย ๒) พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตาม
แนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๓)
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แผนการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการ
อ่านสะกดคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๔) เปรียบเทียบทักษะการอ่านสะกดคำ
ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่าน
สะกดคำภาษาไทย ๕) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียน
ออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๓
ภาคเรียนที่ ๑ ปีการวิจัย ๒๕๖๔ โรงเรียนเทศบาล ๔ เฉลิมพระเกียรติ สำนักการศึกษา เทศบาลเมือง
กาฬสินธุ์ จำนวน ๓๑ คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้วิธีการ
จับสลากและใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ๑)
แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอน ๒) แบบสัมภาษณ์นักเรียน ๓) บทเรียนออนไลน์ จำนวน ๑๕ เรื่อง ๔) แผนการ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน ๑๕ แผน ๆ ละ ๑ ชั่วโมง รวมจำนวน ๑๕ ชั่วโมง ๕) แบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ ๖) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย จำนวน
๓ ข้อ ๆ ละ ๑๐ คะแนน รวม ๓๐ คะแนน ๗) แบบวัดความพึงพอใจ จำนวน ๒๐ ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำ
ภาษาไทย พบว่า การอ่านเป็นทักษะที่ต้องเน้นและต้องฝึกฝนนักเรียน จะทำให้เกิดความรู้และยังก่อให้เกิด
ความสนุกสนานเพลิดเพลิน และส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้
ต่าง ๆ นักเรียนควรได้ฝึกทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทยด้วยวิธีการที่หลากหลาย ซึ่งต้องการฝึกทักษะ
ปฏิบัติเน้นให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง เน้นการปฏิบัติจริง นักเรียนจะเป็นผู้อ่านที่ดี จึงขึ้นอยู่กับ
สภาพแวดล้อมที่ครูเป็นผู้จัดเตรียมให้ และผสมผสานกับความสนใจของนักเรียนที่ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกอ่าน
สะกดคำภาษาไทย
๒. การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตามแนวคิด
สมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพ (E๑/E๒) เท่ากับ ๘๔.๐๒/๘๓.๙๘ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๓. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้
ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .๐๕
๔. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้
ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่
ระดับ .๐๕
๕. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยบทเรียน
ออนไลน์ร่วมกับการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (BBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านสะกดคำภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก