ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านผือ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านผือ

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3

ชื่อผู้วิจัย สมภาร บุดดี

ที่ปรึกษา พิศิษฏ์ แสงสุพิน

สมศักดิ์ สีวัย

สุขี ชมพูเพชร

ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านผือ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านผือ ในภาพรวมและจำแนกรายด้าน 4 ด้าน ได้แก่ 1) การประเมินบริบทหรือสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) 2) การประเมินปัจจัยหรือทรัพยากร (Input Evaluation) 3) การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) และ 4) การประเมินผลผลิต (Product Evaluation) 2. เพื่อประเมินระดับความคิดเห็นของนักเรียน ที่มีต่อการดำเนินโครงการ ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านผือ จำแนกรายด้าน 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล 2) ด้านการส่งเสริมนักเรียน 3) ด้านการป้องกันหรือแก้ไขปัญหา 4) ด้านการส่งต่อ และ 5) ด้านการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน ผู้บริหารและครู และนักเรียน รวม 89 คน โดยใช้ตารางสำเร็จรูปขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่ และมอร์แกน (Krejcie and Morgan) ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 89 คน วิธีการสุ่มตัวอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยเทียบบัญญัติไตรยางศ์ เครื่องมือที่ใช้เป็นสอบถามแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการระบบการดูแล ช่วยเหลือนักเรียน ชุดที่ 2 เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านผือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (frequency) ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (X) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป

ผลการประเมินพบว่า

1. การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านผือ พบว่าโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม มีระดับการปฏิบัติมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านผลผลิต ด้านปัจจัย และด้านกระบวนการ ตามลำดับ สามารถสรุปเป็นรายด้านได้ ดังนี้

1.1 ด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด กลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนในสภาพสังคมปัจจุบันมากที่สุด รองลงมาคือการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบมีความสำคัญและการมีส่วนร่วมของโรงเรียน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองและชุมชน มีความจำเป็นในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้าหรือทรัพยากร (Input Evaluation) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยโรงเรียนมีการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและกำหนดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด รองลงมาคือมีการรายงานข้อมูลต่าง ๆ ของครูประจำชั้นเป็นไปอย่างเป็นระบบ และสามารถกำหนดครูผู้ดูแลช่วยเหลือนักเรียนในอัตราส่วน 1:20-25 ได้

1.3 ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โดยครูประจำชั้นได้ทำความรู้จักกับนักเรียนเป็นรายบุคคลมากที่สุด รองลงมาคือ ครูประจำชั้น

ทำการคัดกรองนักเรียนได้เหมาะสม และ ครูประจำชั้น ได้ส่งเสริมนักเรียนกลุ่มปกติ และนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มมีปัญหา

1.4 ด้านประเมินผลผลิต (Product Evaluation) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนส่งผลให้นักเรียนได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกตามศักยภาพของตนเองมากที่สุด รองลงมาคือ ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านผือ มีประสิทธิภาพ และระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนส่งผลให้นักเรียนได้รับการป้องกันและแก้ไขปัญหา

2. ผลการประเมินความคิดเห็นการประเมินความคิดเห็นของนักเรียนโดยใช้กรอบการดำเนินงานของครูประจำชั้น ต่อโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก โดยด้านการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีระดับการปฏิบัติมากที่สุด รองลงมาคือด้านการส่งต่อ และด้านการส่งเสริมนักเรียน ตามลำดับ สามารถสรุปเป็นรายด้านได้ ดังนี้

2.1 ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลและการคัดกรอง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยครูประจำชั้นได้ทำความรู้จักกับนักเรียนมากที่สุด รองลงมาคือครูประจำชั้นได้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียน นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการประเมินตนเองตามแบบประเมิน SDQ และแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ EQ ตามลำดับ

2.2 ด้านการส่งเสริมนักเรียน ผลการประเมิน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยนักเรียนได้รับคำแนะนำด้านการเรียน จากครูประจำชั้นมากที่สุด รองลงมาคือ นักเรียนได้ร่วมปฏิบัติกิจกรรมโฮมรูม และนักเรียนได้รับคำแนะนำจากครูประจำชั้นหรือโรงเรียนในด้านการป้องกันตนเองให้พ้นภัยจากบุคคลและสังคม ตามลำดับ

2.3 ด้านการป้องกันหรือแก้ไขปัญหา พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยนักเรียนได้ร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตรเช่น กิจกรรมชุมนุม ชมรม กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี มากที่สุด รองลงมาคือ ครูประจำชั้นมีการสื่อสารทางจดหมาย หรือโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ปกครองเพื่อช่วยเหลือนักเรียน และครูประจำชั้นหรือโรงเรียนจัดกิจกรรมซ่อมเสริมให้นักเรียน ตามลำดับ

2.4 ด้านการส่งต่อ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยครูประจำชั้นได้ส่งต่อนักเรียนที่แก้ปัญหาไม่ได้ไปยังครูคนอื่น ครูแนะแนวหรือครูปกครองมากที่สุด รองลงมาคือ ครูประจำชั้น

มีการบันทึกข้อมูลและรายละเอียดของนักเรียนที่มีปัญหาประกอบการส่งต่อ และครูประจำชั้นมีการประสานงานเพื่อติดตามครูที่รับช่วงเพื่อดูแล แก้ไขนักเรียนที่ถูกส่งต่อ ตามลำดับ

2.5 ด้านการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยนักเรียนมีความคิดเห็นว่าควรจะดำเนินโครงการนี้ต่อไปมากที่สุด รองลงมาคือโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นประโยชน์แก่นักเรียนมาก และระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนทำให้นักเรียนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ตามลำดับ

โพสต์โดย หนุ่ม : [18 ต.ค. 2565 เวลา 10:02 น.]
อ่าน [1769] ไอพี : 182.232.109.169
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,587 ครั้ง
งานสัมมนา เปิดโลกการอ่านด้วยวรรณกรรมระดับโลก
งานสัมมนา เปิดโลกการอ่านด้วยวรรณกรรมระดับโลก

เปิดอ่าน 9,905 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 12,277 ครั้ง
11 ก.พ.นี้ ห้ามสูบบุหรี่ใน "ผับ-เธค-สวนอาหาร-จตุจักร"
11 ก.พ.นี้ ห้ามสูบบุหรี่ใน "ผับ-เธค-สวนอาหาร-จตุจักร"

เปิดอ่าน 8,009 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่4
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่4

เปิดอ่าน 7,986 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 25,550 ครั้ง
Download เอกสารหนังสือ "ครูดีในดวงใจ พ.ศ.2561"
Download เอกสารหนังสือ "ครูดีในดวงใจ พ.ศ.2561"

เปิดอ่าน 30,639 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 12,493 ครั้ง
คิดเอาเองว่าเครียด ร้ายหนักกว่าเครียดจริง
คิดเอาเองว่าเครียด ร้ายหนักกว่าเครียดจริง

เปิดอ่าน 19,420 ครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย

เปิดอ่าน 9,276 ครั้ง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง

เปิดอ่าน 77,650 ครั้ง
กาลามสูตร
กาลามสูตร

เปิดอ่าน 14,077 ครั้ง
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี

เปิดอ่าน 13,766 ครั้ง
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5

เปิดอ่าน 23,396 ครั้ง
ความวุ่นวายของการรายงาน จนครูไม่เป็นอันสอน
ความวุ่นวายของการรายงาน จนครูไม่เป็นอันสอน

เปิดอ่าน 19,602 ครั้ง
วิธีทําให้ผมยาวเร็วขึ้น
วิธีทําให้ผมยาวเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 13,935 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินบี...ที่ไม่ควรมองข้าม
ประโยชน์ของวิตามินบี...ที่ไม่ควรมองข้าม
เปิดอ่าน 8,009 ครั้ง
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดอ่าน 16,655 ครั้ง
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
เปิดอ่าน 18,706 ครั้ง
แชร์ทั่วเน็ต!!! วิธีสยบมดง่ายๆ แค่เปลือกไข่ย่างไฟ
แชร์ทั่วเน็ต!!! วิธีสยบมดง่ายๆ แค่เปลือกไข่ย่างไฟ
เปิดอ่าน 29,140 ครั้ง
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ