ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทคัดย่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียในโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิโดยใช้ ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียในโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม

ชื่อผู้ทำงานวิจัย นายอนุรักษ์ ศรทอง

ปี 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา มีวิธีดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการจำเป็นและแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำเสียของโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ โดยใช้แบบสอบถามสภาพปัจจุบัน ปัญหาความต้องการจำเป็นและแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำเสียของโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ เก็บรวบรวมข้อมูลจากหัวหน้างานบริหารทั่วไป จำนวน 1 คน ครูผู้รับผิดชอบงานอาคารสถานที่ จำนวน 1 คนหัวหน้าสายชั้น จำนวน 8 คน และครูผู้สอนสายชั้นละ 5 คน รวมจำนวน 50 คน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยการสนทนากลุ่ม โดยผู้วิจัยกับครูผู้ร่วมพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาฯ จากนั้นตรวจสอบความเหมาะสมของรายวิชาเพิ่มเติมโดยผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยดำเนินการสร้างธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิด ในบริเวณที่มีปัญหาเสียท่วมขัง 4 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าอาคาร MEP จำนวน 1 จุด บริเวณสระว่ายน้ำ จำนวน 1 จุด บริเวณหลังอาคารนิลปัทม์ และบริเวณหลังอาคารปฐมวัย จำนวน 1 จุด เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน สำรวจปริมาณน้ำเสียที่ท่วมขังในบริเวณโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ โดยใช้แบบสำรวจฯ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจของครูและนักเรียน ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. สภาพปัจจุบันและปัญหาน้ำเสียภายในบริเวณโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ โดยรวมอยู่ในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในบริเวณโรงเรียน และมีน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็น มีปัญหาอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความต้องการจำเป็นในการแก้ปัญหาน้ำเสีย โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำเสียที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ธนาคารน้ำใต้ดิน

2. ผลการสร้างรูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม

2.1 ผลการสนทนากลุ่ม (Focus group)

2.1.1 หลักการและเหตุผล ให้ระบุปัญหาน้ำเสียของโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิให้ชัดเจนว่าเกิดขึ้นที่บริเวณใดบ้าง และควรกล่าวถึงความสำคัญของธนาคารน้ำใต้ดินและการบริหารแบบมีส่วนร่วมว่าสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้อย่างไร

2.1.2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบการแก้ปัญหาฯ มีความเหมาะสมและชัดเจนดี

2.1.3 เป้าหมายของรูปแบบการแก้ปัญหาฯ มีความเหมาะสมและชัดเจนดี

2.1.4 ผังเชื่อมโยงองค์ประกอบสำคัญของรูปแบบฯ มีความเหมาะสมและชัดเจนดี

2.1.5 อุปกรณ์ในการสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน ควรปรับจากยางรถยนต์ เป็นวัสดุเหลือใช้ต่างๆ ภายในโรงเรียน และอุปกรณ์การขุดเจาะพื้น ระบุให้ชัดเจน

2.1.6 วิธีการสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน มีความเหมาะสมและชัดเจนดี

2.2 ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการแก้ปัญหาฯ โดยผู้เชี่ยวชาญ

ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่ารูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็น พบว่า ทุกประเด็นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม ปรากฏว่า ครูและนักเรียน จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 88.75 มีความเห็นว่าปริมาณน้ำเสียที่ท่วมขังในบริเวณโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิน้อยลง จำนวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 86.25 มีความเห็นว่ากลิ่นเหม็นของน้ำเสียน้อยลง ทุกคนมีความเห็นว่าสภาพพื้นที่รอบๆ บริเวณที่สร้างธนาคารน้ำใต้ดินสะอาดมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น และห้องน้ำใช้งานได้ดีขึ้น

4. ผลการประเมินรูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วน ปรากฏว่า ความพึงพอใจของครูและนักเรียนโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิที่มีต่อการใช้รูปแบบการแก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ธนาคารน้ำใต้ดินร่วมกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.76, S.D. = 0.48) เมื่อพิจารณาความพึงพอใจเป็นรายข้อ พบว่า ครูและนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกประเด็น

โพสต์โดย yahoo : [15 ต.ค. 2565 เวลา 14:40 น.]
อ่าน [2419] ไอพี : 27.55.78.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,839 ครั้ง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง

เปิดอ่าน 52,426 ครั้ง
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์

เปิดอ่าน 17,168 ครั้ง
คลอด ‘เกณฑ์ย้ายเฉพาะกิจ’ แก้ปม..ร้างผู้บริหาร 7 พันตำแหน่ง ทางออกสุดท้าย..ของ ก.ค.ศ.?
คลอด ‘เกณฑ์ย้ายเฉพาะกิจ’ แก้ปม..ร้างผู้บริหาร 7 พันตำแหน่ง ทางออกสุดท้าย..ของ ก.ค.ศ.?

เปิดอ่าน 13,107 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 29,520 ครั้ง
เครื่องปั้นดินเผา (CERAMICS)
เครื่องปั้นดินเผา (CERAMICS)

เปิดอ่าน 25,228 ครั้ง
เรื่องของเหรียญบาท
เรื่องของเหรียญบาท

เปิดอ่าน 20,456 ครั้ง
ความลับของ "คนรวย"
ความลับของ "คนรวย"

เปิดอ่าน 26,491 ครั้ง
ดูดวงตามวันเกิดผู้หญิง
ดูดวงตามวันเกิดผู้หญิง

เปิดอ่าน 26,285 ครั้ง
โปรแกรม SnagIt
โปรแกรม SnagIt

เปิดอ่าน 14,248 ครั้ง
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี

เปิดอ่าน 14,768 ครั้ง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 29,887 ครั้ง
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปปางต่างๆ

เปิดอ่าน 17,404 ครั้ง
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ

เปิดอ่าน 24,759 ครั้ง
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่

เปิดอ่าน 1,330 ครั้ง
Intrend ให้แบบไม่ OUT กับ 5 รูปแบบการสอน Active Learning ที่ครูต้องใช้ในยุคนี้
Intrend ให้แบบไม่ OUT กับ 5 รูปแบบการสอน Active Learning ที่ครูต้องใช้ในยุคนี้

เปิดอ่าน 39,492 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เปิดอ่าน 10,396 ครั้ง
ดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ช่วยลดน้ำหนักได้ จริงหรือ? / พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล
ดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ช่วยลดน้ำหนักได้ จริงหรือ? / พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล
เปิดอ่าน 58,295 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
เปิดอ่าน 14,292 ครั้ง
คลิปฮ็อต "บัวขาว" ไล่ถลุง "ลี ซุง ฮุน" นักมวยโสมยับ แห่ชม 1.5 แสนวิวแล้ว
คลิปฮ็อต "บัวขาว" ไล่ถลุง "ลี ซุง ฮุน" นักมวยโสมยับ แห่ชม 1.5 แสนวิวแล้ว
เปิดอ่าน 11,133 ครั้ง
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ