ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการใช้ห้องสมุดเพื่อการสืบค้นและนำเสนอ เรื่อง การใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในการส่งเสริมการอ่าน

รายงานการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (Classroom action research: CAR )

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา การใช้ห้องสมุดเพื่อการสืบค้นและนำเสนอ เรื่อง การใช้หนังสือ

อิเล็กทรอนิกส์ในการส่งเสริมการอ่าน โดยการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8

ชื่อผู้วิจัย นางสาวสมจิตต์ กิจประเสริฐ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

สอนวิชา การใช้ห้องสมุดเพื่อการสืบค้นและนำเสนอ รหัสวิชา ท31201 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) เป็นแผนระยะยาวภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ยังยึด “คน” เป็นศูนย์กลางการพัฒนา และมีหลักสำคัญในการจัดการศึกษา ประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) หลักการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียมและทั่วถึง (InclusiveEducation) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) และหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม (All for Education) อีกทั้งยึดตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs2030) มีวิสัยทัศน์ คือ คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา 4 ประการ คือ 1) เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ 2) เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ 3) เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้รักสามัคคี และร่วมมือผนึกกำลังสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ 4) เพื่อประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำภายในประเทศลดลง

จากแผนการศึกษาแห่งชาติ สู้การวางเป้าหมายไว้ 2 ด้าน คือ 1) เป้าหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ประกอบด้วย ทักษะและคุณลักษณะต่อไปนี้ (1) 3Rs ได้แก่ การอ่านออก(Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น (Arithmetics) (2) 8Cs ได้แก่ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม(Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross–cultural Understanding)ทักษะด้านความร่วมมือ การงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทำทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และการรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) และความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion) (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2560 : จ-ฉ) ซึ่ง สอดคล้องกับเป้าหมายการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2552 : 3-4)

ดังนั้น การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด คุณภาพการศึกษาเป็นภาพรวมของผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการเรียนรู้ตามหลักสูตรทั้งในด้านความรู้ความสามารถ ทักษะปฏิบัติ และคุณธรรมจริยธรรมตามที่ผู้เรียนแต่ละระดับได้รับการพัฒนา (สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2553 : 1) ดังที่ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552 :4) จะเห็นได้ว่า คุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เป็นสิ่งสำคัญที่สะท้อนการ บรรลุเป้าหมาย และผลของการจัดการศึกษา

การทำวิจัยในครั้งนี้ ได้มีการนำหลักการหลักการของ การจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) โดยใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา ในการส่งเสริมให้นักเรียนอ่านผ่านระบบหนังสือ อิเล็กทอกนิสกส์ (E-Book) ผสมผสานกับการจัดกิจกรรมในห้องเรียน เนื่องจากเวลาในห้องเรียนมีจำกัด การที่จะให้นักเรียนเข้าใจในหลักการความรู้บางอย่างอาจมีเวลาไม่พอ ดังนั้นการศึกษาความรู้จากการสอนผ่านวีดีโอที่ครูได้บันทึกไว้แล้ว รวมทั้งการอ่านหนังสือเพิ่มเติม ปรึกษาเพื่อนหรือครูออนไลน์ สามารถทำได้ล่วงหน้านอกห้องเรียน ส่วนเวลาในห้องเรียน ครูก็สร้างสภาวะแวดล้อมให้เหมาะกับการจัดกิจกรรมที่ออกแบบไว้ เพื่อให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ ครูก็เดินสำรวจไปรอบๆ ห้อง คอยให้คำแนะนำหลักการที่เข้าใจยาก หรือปัญหาที่เด็กพบ วิธีนี้จะทำให้เด็กเข้าใจความรู้ และเชื่อมโยงในหลักการที่ถูกต้อง

2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1.เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้น

2.เพื่อหาประสิทธิภาพของระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

3.เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน

3. ขอบเขตของการวิจัย

3.1 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายเป็นกลุ่มตัวอย่าง 1 ห้องเรียน จำนวน 10 คน

3.2 เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย

การศึกษาค้นคว้า ในรายวิชาการใช้ห้องสมุดเพื่อการสืบค้นและนำเสนอ

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เรื่อง ทักษะการอ่าน E-book

3.3 ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น คือ ระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ E-book

ตัวแปรตาม คือ ทักษะการอ่านหนังสือ

4. วิธีดำเนินการวิจัย

4.1 การใช้เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

ระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 Book E-Library

4.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล

ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนและ หลังเรียน เรื่อง ทักษะการอ่าน จำนวน 20 ข้อโดยการจัดกิจกรรมการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้าน Flipped Classroom

4.3 การวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์หาคุณภาพขอเครื่องมือดังต่อไปนี้

1.การวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าดัชนีมีความสอดคล้อง หรือค่า IOC (Index of Item-Objective Congruence) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและนวัตกรรมสื่อการเรียนการสอนแบบของจำลอง จากผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด,2545)

2.หาค่าความเชื่อมั่น ค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีสูตรคำนวณ ดังนี้

คำนวณหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยวิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน สูตร KP-20 (เยาวดี

วิบูลย์ศรี,2545)

คำนวณหาความยากง่าย(p) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ การวิเคราะห์ ความยากง่าย เป็น

การวิเคราะห์รายข้อ ใช้สูตร (เยาวดี วิบูลย์ศรี,2545)

คำนวณหาค่าอำนาจจำแนกรายข้อของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การหาอำนาจจำแนก เป็น

การดูความเหมาะสมของรายข้อว่า ข้อคำถามสามารถจำแนกกลุ่มเก่งและกลุ่มอ่อนได้จริง หรือจำแนกผู้ที่มีคุณลักษณะสูงจากผู้มีคุณลักษณะต่ำได้ใช้สูตร (เยาวดี วิบูลย์ศรี,2545)

5. ผลการวิจัย

ผลการเปรียบเทียบข้อมูลผลสัมฤทธิ์โดยการใช้แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

ตารางที่ 5.1 แสดงผลต่างของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8

โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 10 คน

นักเรียนคนที่ คะแนนก่อนเรียน(10 คะแนน) คะแนนหลังเรียน (10 คะแนน) ผลต่าง เทียบกับเกณฑ์ 80 %

ผ่าน ไม่ผ่าน

1 2 9 6 ผ่าน

2 3 9 6 ผ่าน

3 3 9 6 ผ่าน

4 3 9 6 ผ่าน

5 2 10 8 ผ่าน

6 2 8 5 ผ่าน

7 2 10 8 ผ่าน

8 2 9 7 ผ่าน

9 3 8 5 ผ่าน

10 4 10 6 ผ่าน

จากตารางที่ 5.1 พบว่า ผลคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 10 คน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน มีค่าต่างกันโดยหลังจากที่ใด้ระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ผลพบว่าคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน นักเรียนที่นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ มีจำนวน 10 คน คิดเป็น 100%

6. ข้อเสนอแนะ

ควรนำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการอ่านที่ดี มีประโยชน์ และมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน จึงควรส่งเสริมนำไปจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในทุกห้องเรียน

7. ประโยชน์ที่ได้รับ

1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้น

2 นักเรียนสามารถใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ใช้งานในการส่งเสริมการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ครูได้ใช้เทคนิคห้องเรียนกลับด้านให้เกิดการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย จิต : [14 ต.ค. 2565 เวลา 08:27 น.]
อ่าน [3657] ไอพี : 171.7.60.134
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 171,748 ครั้ง
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน

เปิดอ่าน 11,327 ครั้ง
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน

เปิดอ่าน 9,036 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 18,016 ครั้ง
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่

เปิดอ่าน 1,021 ครั้ง
การดูแล "เท้า-เรียวขา" ให้เนียนนุ่ม และ สุขภาพดี
การดูแล "เท้า-เรียวขา" ให้เนียนนุ่ม และ สุขภาพดี

เปิดอ่าน 28,008 ครั้ง
เกมส์ระบายสี
เกมส์ระบายสี

เปิดอ่าน 4,524 ครั้ง
อาหารแสลง คืออะไร
อาหารแสลง คืออะไร

เปิดอ่าน 14,240 ครั้ง
กินผักตามฤดู 12 เดือน
กินผักตามฤดู 12 เดือน

เปิดอ่าน 29,157 ครั้ง
โปรแกรมแว่นขยาย
โปรแกรมแว่นขยาย

เปิดอ่าน 14,160 ครั้ง
กินถั่ววอลนัท ตัดหนทางมะเร็ง
กินถั่ววอลนัท ตัดหนทางมะเร็ง

เปิดอ่าน 13,606 ครั้ง
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา

เปิดอ่าน 19,029 ครั้ง
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ

เปิดอ่าน 54,123 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)

เปิดอ่าน 29,375 ครั้ง
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก

เปิดอ่าน 11,606 ครั้ง
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2

เปิดอ่าน 754 ครั้ง
โรงงานผลิตครีม รับผลิตครีมได้มาตรฐาน อย. มีความปลอดภัย
โรงงานผลิตครีม รับผลิตครีมได้มาตรฐาน อย. มีความปลอดภัย
เปิดอ่าน 17,648 ครั้ง
ภัยเงียบ...มะเร็งลำไส้ใหญ่......
ภัยเงียบ...มะเร็งลำไส้ใหญ่......
เปิดอ่าน 9,727 ครั้ง
สร้างความสุขในการทำงาน
สร้างความสุขในการทำงาน
เปิดอ่าน 12,545 ครั้ง
คลิปข่าว ผลสอบ o-net ป.6 พบคะแนนเฉลี่ยโอเน็ต ต่ำกว่าครึ่งถึง 6 วิชา
คลิปข่าว ผลสอบ o-net ป.6 พบคะแนนเฉลี่ยโอเน็ต ต่ำกว่าครึ่งถึง 6 วิชา
เปิดอ่าน 9,695 ครั้ง
วันปิยมหาราช
วันปิยมหาราช

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ