|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 2) พัฒนารูปแบบการบริหาร เพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 และ 3) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานโดยแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่าง/ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครู จำนวน 24 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน หัวหน้าฝ่ายวิชาการและหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ฯ 8 กลุ่ม จำนวน 9 คน เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2-3 จำนวน 43 คน ประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 150 คน และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 41 คน โรงเรียนบ้านทองมงคล ในปีการศึกษา 2564 เครื่องมือวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคลโดยสอบถามครูทั้งโรงเรียน 2) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเกี่ยวกับความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นประโยชน์ โดยสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 ท่าน 3) แบบสัมภาษณ์การบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้แบบกึ่งโครงสร้างโดยสัมภาษณ์หัวหน้าฝ่ายวิชาการและหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ฯ 8 กลุ่ม 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูในการใช้รูปแบบ 5) แบบสัมภาษณ์ความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2-3 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ต่อนวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของครู การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์เนื้อหา การวิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นโดยใช้การวิเคราะห์ Modified Priority Needs Index (PNIModified)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคล พบว่า สภาพปัจจุบันในการการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่พึงประสงค์ในการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาค่าดัชนีความต้องการจำเป็น Modified Priority Need Index (PNIModified) ของสภาพที่เป็นจริงในปัจจุบันกับสภาพที่พึงประสงค์ พบว่า โดยรวมเท่ากับ 0.56 และเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก ดังนี้ ด้านการจัดกระบวนการสร้างนวัตกรรม ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ และด้านภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมตามลำดับ ส่วนด้านที่มีความต้องการจำเป็นต่ำสุด คือ ด้านการวางแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างนวัตกรรม
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้าน
ทองมงคล ใช้แนวคิดการพัฒนารูปแบบของ Keeves (1998) ประกอบด้วย 1) หลักการ และแนวคิดพื้นฐานของรูปแบบ 2) ชื่อรูปแบบ 3) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 4) ลักษณะของรูปแบบ และ 5) การดำเนินการในการบริหารเพื่อสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 5 ด้าน คือ 1) ด้านการวางแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างนวัตกรรม 2) ด้านภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม 3) ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ 4) ด้านการจัดกระบวนการสร้างนวัตกรรม และ 5) ด้านการวัดผลการสร้างนวัตกรรมในองค์กร และพบว่ารูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคลมีความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
3. ผลประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารพัฒนานวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านทองมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 พบว่า ครูมีความพึงพอใจในการใช้รูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2-3 มีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมการจัดเรียนรู้ของครูมากและมากที่สุด โดยแสดงความคิดเห็นว่าชอบที่ครูมีเทคนิคการสอนใหม่ๆ มาสอน และมีสื่อ เทคโนโลยีที่ช่วยให้เรียนรู้สนุกสนาน ตื่นเต้นและมีความสุข และระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย จอย : [13 ต.ค. 2565 เวลา 18:32 น.] อ่าน [3315] ไอพี : 171.5.242.151
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 1,971 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,248 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,042 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,303 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,211 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,931 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,126 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,480 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,665 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,417 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,565 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,016 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,016 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,588 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 96,827 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,170 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,883 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,781 ครั้ง
| เปิดอ่าน 126,817 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|