ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์

รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์

ครั้งนี้ผู้ประเมินใช้รูปแบบการประเมินแบบ IPO Model (อ้างในสมหวัง พิธิยานุวัฒน์. 2551:202-209) โดยมีวัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อรายงานการประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ตามแนวทางการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีวัตถุประสงค์เฉพาะ 1) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 2) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม 3) เพื่อประเมินผลผลิต (Output Evaluation) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ คณะครูโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ จำนวน 47 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ จำนวน 870 คน

รวมทั้งสิ้น จำนวน 917 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบตัวเลือกที่กำหนด (Forced choice) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scales) 5 ระดับ ตามแบบของลิเคอร์ท (Likert scale) (บุญชม ศรีสะอาด. 2560: 70) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (μ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ)

ผลการประเมิน พบว่า

1. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation)

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ด้านปัจจัยนำเข้า(Input) ระดับความพร้อมด้านปัจจัย 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านบุคคล 2) ด้านงบประมาณ

3) ด้านทรัพยากร อุปกรณ์ และ 4) ด้านการบริหารจัดการ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยภาพรวมระดับความพร้อม อยู่ในระดับมากที่สุด

เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ส่วนใหญ่มีค่าเฉลี่ยความพร้อมอยู่ในระดับมากที่สุด มี 2 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยความพร้อมอยู่ในระดับมาก คือ ข้อที่ 4 ครูที่ปรึกษามีความพร้อมในการให้ความรู้ ความเข้าใจและจัดกิจกรรมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและชุมชน และข้อที่ 8 สถานศึกษาสามารถเบิกจ่ายงบประมาณสะดวกและรวดเร็วตรงเวลา และทั่วถึงทุกขั้นตอน

2. ด้านกระบวนการ (Process Evaluation)

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ด้านกระบวนการ (Process) ระดับการปฏิบัติ ด้านกระบวนการ 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) การวางแผน(Plan) 2) การดำเนินกิจกรรมตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน (Do) 3) การตรวจสอบและประเมินผล (Check)

และ4) การทบทวนและปรับปรุงการปฏิบัติงาน (Act) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยภาพรวมระดับการปฏิบัติด้านกระบวนการอยู่ในระดับ มากที่สุด

เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด ทุกด้าน แต่ด้านการปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงานและการรายงานผล มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด

3. ด้านผลผลิต (Output Evaluation)

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ด้านผลผลิต (Output Evaluation) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยภาพรวม พบว่า ระดับการปฏิบัติด้านผลผลิต (Output Evaluation) อยู่ในระดับ มากที่สุด สรุปแต่ละองค์ประกอบได้ดังนี้

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านผลลัพธ์ของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์ ส่วนใหญ่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด มี 3 ข้อ ที่มีค่าเฉลี่ย

การปฏิบัติอยู่ในระดับมาก คือ ข้อที่ 10 การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการส่งเสริม สนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรียนร่วมกับโรงเรียน/สถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อที่ 14 การประเมินผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิต การเสริมสร้างความปลอดภัย และการคุ้มครองนักเรียน เพื่อปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และข้อที่ 18 ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิตและการคุ้มครองนักเรียนส่งผลต่อประสิทธิภาพของโรงเรียน/สถานศึกษา และชุมชนท้องถิ่น

ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ในภาพรวมนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาพื้นฐานระดับ 3 ขึ้นไป อยู่ในระดับดีเยี่ยม (ร้อยละ 51.41) เมื่อพิจารณารายกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาพื้นฐานระดับ 3 ขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 35.25 อยู่ในระดับปานกลาง

ด้านผลสมรรถนะของนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ภาพรวมของผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของนักเรียนที่ได้ระดับดีขึ้นไป มีจำนวน 793 คน คิดเป็นร้อยละ 91.15 อยู่ในระดับดีเยี่ยม เมื่อพิจารณา

เป็นรายชั้น พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการประเมินสมรรถนะสำคัญระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100 อยู่ในระดับดีเยี่ยม

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ภาพรวมของผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่ได้ระดับดีขึ้นไป มีจำนวน 841 คน คิดเป็นร้อยละ 96.67 อยู่ในระดับ ดีเยี่ยม เมื่อพิจารณาเป็นรายชั้น พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100 อยู่ในระดับดีเยี่ยม

โพสต์โดย COUPOn : [13 ต.ค. 2565 เวลา 12:44 น.]
อ่าน [3712] ไอพี : 1.10.194.116
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,990 ครั้ง
ภาษาพูด
ภาษาพูด

เปิดอ่าน 19,059 ครั้ง
การย้ายพนักงานงานราชการ
การย้ายพนักงานงานราชการ

เปิดอ่าน 21,001 ครั้ง
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์

เปิดอ่าน 253,382 ครั้ง
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก

เปิดอ่าน 1,250 ครั้ง
PBISS | The Most Caring and Innovative International School of Koh Samui
PBISS | The Most Caring and Innovative International School of Koh Samui

เปิดอ่าน 19,842 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 13,443 ครั้ง
วาซาบิ
วาซาบิ

เปิดอ่าน 14,151 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553

เปิดอ่าน 9,128 ครั้ง
3 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูก ไปหาหมอ
3 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูก ไปหาหมอ

เปิดอ่าน 27,407 ครั้ง
"ประกาศสงกรานต์" ปี 2556
"ประกาศสงกรานต์" ปี 2556

เปิดอ่าน 59,294 ครั้ง
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ

เปิดอ่าน 22,150 ครั้ง
 ปิดเทอมนี้ให้ลูกวัยรุ่นทำอะไรดีนะ/ดร.แพง ชินพงศ์
ปิดเทอมนี้ให้ลูกวัยรุ่นทำอะไรดีนะ/ดร.แพง ชินพงศ์

เปิดอ่าน 193,578 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

เปิดอ่าน 20,088 ครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย

เปิดอ่าน 10,588 ครั้ง
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก

เปิดอ่าน 10,851 ครั้ง
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้
เปิดอ่าน 24,071 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ
เปิดอ่าน 8,951 ครั้ง
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
เปิดอ่าน 13,583 ครั้ง
"แป้งพับ"ก๊อปปี้แบรนด์ดังสุดน่ากลัว
"แป้งพับ"ก๊อปปี้แบรนด์ดังสุดน่ากลัว
เปิดอ่าน 37,274 ครั้ง
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข
อบรมการสร้าง 7 อุปนิสัย ให้เด็กดีมีความสุข

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ