บทสรุปผู้บริหาร
การประเมินโครงการเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนบางปะอิน ราชานุเคราะห์ ๑ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความสอดคล้อง ความต้องการจำเป็นและเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับบุคลากร งบประมาณและทรัพยากรต่างๆ เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินโครงการ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมการ ขั้นดำเนินการ ขั้นติดตามและขั้นปรับปรุงแก้ไข และเพื่อประเมินผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับปริมาณและคุณภาพของผลผลิตผู้ร่วมโครงการ และความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียนของครู โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 4 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 14 คน ครูผู้สอน จำนวน 104 คน และนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified random sampling) โดยใช้ระดับชั้นเป็นหน่วยการสุ่ม สุ่มระดับชั้นละ 50 คน จึงได้กลุ่มตัวอย่างมา จำนวน 300 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน จำนวน 4 ฉบับ เป็นแบบสอบถามทั้ง 4 ฉบับ การเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ ดังนี้
ผลการประเมิน
ผลการประเมิน พบว่า ตัวชี้วัด ประเด็นการประเมินทุกประเด็นและภาพรวมของโครงการทั้งหมด มีดังนี้
1. ผลการประเมินด้านบริบท (Context) พบว่า มีความสอดคล้องกับความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ /สพฐ./สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา/โรงเรียน วัตถุประสงค์ของโครงการมีความเหมาะสมกับสภาพปัญหา
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) พบว่า มีความพร้อม ความพอเพียงและการสนับสนุนต่าง ๆ ในด้านบุคลากร งบประมาณ เอกสาร สื่อ วัสดุอุปกรณ์ และการบริหารจัดการโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process) พบว่า ขั้นเตรียมการ ขั้นดำเนินการ ขั้นประเมิลผลและขั้นปรับปรุงแก้ไข มีการปฏิบัติและมีความเหมาะสม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินด้านผลผลิต (Product) พบว่า
4.1 ปีการศึกษา 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีงานวิจัยในชั้นเรียนมากที่สุด และเมื่อเปรียบเทียบการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนบางปะอิน ราชานุเคราะห์ ๑ ระหว่างปีการศึกษา 2563 กับปีการศึกษา 2564 พบว่า ครูโรงเรียนบางปะอิน ราชานุเคราะห์ ๑ ทำวิจัยในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 100.00
4.2 ผลการพัฒนาครูและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ก่อนและหลังการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียน พบว่า ผลการพัฒนาครูและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนหลังการดำเนินโครงการสูงกว่าก่อนการดำเนินโครงการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.3 ผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนก่อนและหลังการจัดการพัฒนา การจัดการเรียนการสอนของครูโดยใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียน ในปีการศึกษา 2564 มีจำนวน 104 เรื่อง โดยในแต่ละเรื่องมีการนำกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนมาใช้ พบว่า การวิจัยในชั้นเรียนของครูสามารถพัฒนานักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และสามารถแก้ไขพฤติกรรมเชิงลบทางการเรียนได้
4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนบางปะอิน ราชานุเคราะห์ ๑ พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการประเมินไปใช้
1. การประเมินครั้งนี้ สภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน โรงเรียนบางปะอิน ราชานุเคราะห์ ๑ อยู่ในระดับมาก ดังนั้นจึงควรสร้างความตระหนัก ความสำคัญเรื่องแนวคิดและแสวงหาความรู้ใหม่ในการทำวิจัยในชั้นเรียนแก่ครูมากขึ้น เพื่อให้การทำวิจัยในชั้นเรียนของครูประสบความสำเร็จมากขึ้น ส่งผลต่อการนำไปใช้พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนในชั้นเรียนให้เกิดผลต่อนักเรียนต่อไป
2. ในสภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่มีผลต่อการทำวิจัยในชั้นเรียน ทั้งในด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในชั้นเรียน และด้านทักษะในการวิจัย ในชั้นเรียน ดังนั้นจึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาในด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในชั้นเรียน ควรมีที่ปรึกษาการทำวิจัยในชั้นเรียนโดยมีการแต่งตั้งครูผู้เชี่ยวชาญด้านการทำวิจัยคอยเป็นที่ปรึกษาแก่ครูผู้สอนที่ต้องการ และจัดอบรมสนับสนุนให้ครูผู้สอนเกิดทักษะในการทำวิจัยให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันมากขึ้น
ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินครั้งต่อไป
1. ควรทำการศึกษารูปแบบหรือกระบวนการในการจัดอบรมการทำวิจัยในชั้นเรียน ที่ส่งผลต่อการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนให้ดียิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพรอบด้านมากยิ่งขึ้น
2. ผู้บริหารโรงเรียนควรให้ความสำคัญต่อการดำเนินการของโครงการอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้ครูได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นร่วมรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน
3. ควรมีการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานร่วมกันของครูในโรงเรียนทุกฝ่าย ให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ที่วางไว้