บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย 2) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย 3) เปรียบเทียบทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย ก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วม 4) ประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย และ 5) ประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีรูปแบบการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1) ครูผู้สอน จํานวน 9 คน 2) ผู้ปกครอง จํานวน 14 คน 3) นักเรียนชั้นอนุบาล ประถมศึกษาปีที่ 6 จํานวน 100 คน จากโรงเรียนบ้านห้วยทราย โดยเริ่มทำการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 รวมระยะเวลา 10 สัปดาห์เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบสังเกตทักษะทักษะภาวะผู้นำของนักเรียน 2) แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และการทดสอบที (t-test dependent) ผลการวิจัยพบว่า
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย พบว่า รูปแบบที่พัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบ ดังนี้ ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบ ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ความเป็นพลเมือง ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกับผู้อื่น การบริหารจัดการ การมีวิจารณญาณ การควบคุมตนเอง และการรู้จักตนเอง โดยขั้นตอนการมีส่วนร่วมของชุมชน ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน 1) การมีส่วนร่วม ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ (Participation in decision making: PD) 2) การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ(Participation in implementation: PI) 3) การมีส่วนร่วมในการประเมินผล (Participation inevaluation: PE) เป็นขั้นตอนการพิจารณาผลการดําเนินการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนร่วมกันระหว่างครูผู้สอนและผู้ปกครอง
2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย มีความเหมาะสมอยูในระดับมาก มีคาเฉลี่ย 4.35 และเมื่อพิจารณา เป็นรายข้อ พบว่า ความมุ่งหมายของรูปแบบการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสมมากที่สุด โดยมีคาเฉลี่ย 5.00รองลงมาคือ แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานที่นําไปสู่การกำหนดกรอบแนวคิด การจัดการเรียนรู้และแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ 4.80 ส่วนการเรียงลําดับขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ด้านบทบาทครูมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 3.80
3. ผลการเปรียบเทียบทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย และหลังการใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วม พบว่า นักเรียน กลุ่มเป้าหมายมีคะแนนเฉลี่ยทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย ภาวะผู้นำหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย พบว่า ครูมีความพึงพอใจต่อการนํารูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ครูมีระดับความ พึงพอใจ ต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้มากที่สุดทุกข้อ ซึ่งครูผู้สอนเห็นว่ารูปแบบส่งผลให้นักเรียนเกิดการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทรายอย่างแท้จริง อีกทั้งรูปแบบส่งผลให้ครูและตัวแทนชุมชนเกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกันมีปฏิสัมพันธที่ดีต่อกัน ในส่วนของคณะครูผู้สอนเองได้ รับประโยชน์คือการทํางานเป็นทีมมากขึ้น
5. ผลประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยทราย พบว่าผู้ปกครองมีระดับ ความพึงพอใจในภาพร่วมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ตัวแทนชุมชนแสดงทัศนะเพิ่มเติมว่า เพราะรูปแบบส่งผลให้บุตรหลานมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นแสดงการช่วยเหลือผู้อื่นและแบ่งปนสิ่งของต่าง ๆ ตลอดจนขนมให้กับพี่น้องและคนในบ้านอย่างเต็มใจ อีกทั้งรูปแบบส่งผลให้ชุมชนมีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในชุมชน ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับครูผู้สอน จึงมีความพึงพอใจต่อรูป แบบการจัดการเรียนรู้แบบชุมชนมีส่วนร่วมนี้เป็นอย่างมาก