การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) โดยใช้รูปแบบการประเมินตามแบบจำลองซิปป์ (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์ของการประเมินเพื่อ (1) ประเมินสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation: C) ของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) (2) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Inputs Evaluation: I) ของการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) (3) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation: P) ของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) และ 4) ประเมินผลผลิต (Product Evaluation: P) ของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) ประชากรที่ใช้ในการประเมิน จำนวน 332 คน ประกอบด้วย ครูผู้สอน จำนวน 17 คน นักเรียน จำนวน 150 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 150 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ ใช้การเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) จำนวน 244 คน ประกอบด้วย ครูผู้สอน จำนวน 15 คน นักเรียน จำนวน 108 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 108 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน ยกเว้นกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นผู้แทนครูและผู้แทนผู้บริหารได้อยู่ในส่วนที่เป็นครูผู้สอนแล้ว เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 6 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ผล การประเมินและการหาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชื่อมั่น ค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
สรุปผล
การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) สรุปผลดังนี้
1. การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน เรียงลำดับ จากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ด้านผลผลิต ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านกระบวนการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านสภาวะแวดล้อม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก มีค่าเท่ากับด้านปัจจัยนำเข้า ค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก และตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ด้านผลผลิต ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านกระบวนการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านปัจจัยนำเข้า ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation: C) ของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ความสอดคล้องของนโยบาย ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และความต้องการจำเป็นของโครงการและสภาพปัญหาของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม พบว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ของโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ความสอดคล้องของนโยบาย ค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก และความต้องการจำเป็นของโครงการและสภาพปัญหาของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation: I) ของการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน พบว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานที่จัดกิจกรรมตามโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมของบุคลากร ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ความเพียงพอของงบประมาณ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และความเพียงพอของวัสดุ ครุภัณฑ์ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม พบว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานที่จัดกิจกรรมตามโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมของบุคลากร ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก มีค่าเท่ากับ ความเพียงพอของวัสดุ ครุภัณฑ์ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และความเพียงพอของงบประมาณ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินกระบวนการ (Process Evaluation: P) ของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ การดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ การนิเทศและติดตามการดำเนินงาน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด การประเมินผล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และการวางแผน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ การดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ การนิเทศและติดตาม การดำเนินงาน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด การประเมินผล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และ การวางแผน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินผลผลิต (Product Evaluation: P) ของการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) เกี่ยวกับกิจกรรมของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 กิจกรรม ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน อยู่ในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมากที่สุด
กิจกรรมที่ 1 การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ตามความคิดเห็นของครู มีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการรวบรวมข้อมูลประวัติส่วนตัวของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ สถานศึกษา มีการรวบรวมข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษามีการรวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการรวบรวมข้อมูลประวัติส่วนตัวของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ รองลงมา คือ สถานศึกษามีการรวบรวมข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษามีการรวบรวมข้อมูลด้านความสามารถพิเศษของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
กิจกรรมที่ 2 การคัดกรองนักเรียน ตามความคิดเห็นของครู โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการจำแนกนักเรียนตามเกณฑ์และเรียงลำดับการคัดกรอง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ สถานศึกษากำหนดเกณฑ์การจัดกลุ่มนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษามีการประชุมทำข้อตกลงเกี่ยวกับการพิจารณาเกณฑ์การจัดกลุ่มนักเรียน มีค่าเท่ากับสถานศึกษานำข้อมูลนักเรียนรายบุคคลใช้อย่างเหมาะสม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการประชุมทำข้อตกลงเกี่ยวกับการพิจารณาเกณฑ์การจัดกลุ่มนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ มีสถานศึกษามีการจำแนกนักเรียนตามเกณฑ์และเรียงลำดับการคัดกรอง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษากำหนดเกณฑ์การจัดกลุ่มนักเรียน มีค่าเท่ากับสถานศึกษานำข้อมูลนักเรียนรายบุคคลใช้อย่างเหมาะสม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
กิจกรรมที่ 3 การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน ตามความคิดเห็นของครู โดยรวม ค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียนและพัฒนานักเรียนให้สอดคล้อง ต่อนโยบายของสถานศึกษา ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ สถานศึกษาส่งเสริมให้นักเรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษามีความต่อเนื่องในการดำเนินงานการจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียนตามกลุ่มนักเรียนที่คัดกรอง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียนและพัฒนานักเรียนให้สอดคล้อง ต่อนโยบายของสถานศึกษา ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียนและพัฒนานักเรียน มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
กิจกรรมที่ 4 การป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน ตามความคิดเห็นของครู มีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ครูที่ปรึกษาให้คำปรึกษานักเรียนเบื้องต้นในด้านต่าง ๆ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ครูตระหนักและเห็นคุณค่าในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และครูมีความเข้าใจปัญหาของนักเรียนอย่างแท้จริง มีค่าเท่ากับการป้องกันและแก้ไขปัญหาสอดคล้องกับลักษณะสภาพปัญหาของนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการช่วยเหลือดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มมีปัญหาอย่างใกล้ชิด ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ครูที่ปรึกษาให้คำปรึกษานักเรียนเบื้องต้นในด้านต่าง ๆ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และครูมีความเข้าใจปัญหาของนักเรียนอย่างแท้จริง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
กิจกรรมที่ 5 การส่งต่อนักเรียน ตามความคิดเห็นของครู มีค่าเฉลี่ยโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษามีการบันทึกผลการช่วยเหลือการส่งต่อนักเรียนทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ สถานศึกษามีการติดตามผลการส่งนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษาสรุปผลการส่งนักเรียนไว้เป็นหลักฐานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ สถานศึกษาสรุปผลการส่งนักเรียนไว้เป็นหลักฐานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ สถานศึกษามีการบันทึกผลการช่วยเหลือการส่งต่อนักเรียนทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และสถานศึกษามีการดำเนินการส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีค่าเท่ากับสถานศึกษามีการติดตามผลการส่งนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
6. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินผลผลิต (Product Evaluation: P) ของโครงการระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวังตะกู (เสรีเริงฤทธิ์อุปถัมภ์) เกี่ยวกับความพึงพอใจของครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้ง 5 กิจกรรม โดยภาพรวม ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านการคัดกรองนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านการป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ ได้แก่ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด รองลงมา คือ ด้านการคัดกรองนักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด