ชื่องานวิจัย : การศึกษาสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และความต้องการในการนิเทศของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย : นายชาตรี ลักษณะศิริ
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และความต้องการในการนิเทศของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ
๑. เพื่อศึกษาสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และความต้องการในการนิเทศ ของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
๒. เพื่อสร้างแนวทางการนิเทศ ติดตาม และสนับสนุน สถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
การศึกษาสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และความต้องการในการนิเทศของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
ประชากรในการวิจัยครั้งนี้เป็น ผู้บริหารและครูของโรงเรียนที่จัดการเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร จำนวน 1,312 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นผู้บริหารและครู ในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร จำนวน ๓๐๒ คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยวิธีการจับฉลาก และ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยตารางของ Krejcie และ Morgan (บุญชม
ศรีสะอาด, ๒๕๕๓, หน้า ๔๓)
เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม ค่าความเชื่อมั่น (Reliability).๘๙ และแบบสอบถามความต้องการในการนิเทศ ของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) .๙๕ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น และวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที (t-test) โดยใช้คอมพิวเตอร์
ผลการวิจัย พบว่า
๑. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม มีสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับพร้อมมาก จำแนกเป็นรายต้าน พบว่า ด้านนโยบายของโรงเรียน ด้านหลักสูตรการเรียนการสอน ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษเรียนรวม มีความพร้อมอยู่ในระตับมาก ส่วนด้านสื่อการเรียนการสอนมีความพร้อมอยู่ในระดับปานกลาง
๒. จากการเปรียบเทียบสภาพการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบ เรียนรวม จำแนกตามตำแหน่งผู้บริหารและครู ไม่แตกต่างกัน
๓. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม มีความต้องการในการนิเทศโดยรวม และรายด้านอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านเปลี่ยนผ่านทางการศึกษา เป็นอันดับที่หนึ่ง รองลงมา ด้านการวัดผลและประเมินผล และด้านการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ตามลำดับ
๔. จากการเปรียบเทียบความต้องการในการนิเทศ ของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม จำแนกตามตำแหน่งผู้บริหารและครู ไม่แตกต่างกัน
การสร้างแนวทางการนิเทศ ติดตาม และสนับสนุน สถานศึกษาที่ จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสัมภาษณ์อย่างมีโครงสร้าง ซึ่งตรวจสอบแบบสัมภาษณ์โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๕ ท่าน จากการร่างแนวทางและปรับปรุงแนว ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๕ ท่าน ได้แนวทางการนิเทศติดตาม และสนับสนุน สถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ๑) ขอบข่ายการนิเทศ ติดตาม และสนับสนุน ด้านแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ๒) ขอบข่ายการนิเทศ ติดตาม และสนับสนุน ด้านการวัดผลและประเมินผล ๓) ขอบข่ายการนิเทศ ติดตาม และสนับสนุน ด้านการเปลี่ยนผ่านทางการศึกษา