ชื่อเรื่อง การประเมินผลโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564
ผู้ศึกษา นายนันทวัฒน์ พุ่มพวง
ปีที่พิมพ์ 2565
บทคัดย่อ
การประเมินผลโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.ประเมินโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยยึดรูปแบบการประเมินแบบซิปโมเดล (CIPP Model) ของสตัฟเฟิล บีม ซึ่งประเมินองค์ประกอบ 4 ด้าน 1.1 ด้านสภาวะแวดล้อม (Context) 1.2 ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) 1.3 ด้านกระบวนการ (Process) 1.4 ด้านผลผลิต (Product) 2. ศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ จำนวน 333 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 11 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 58 คน นักเรียน จำนวน 131 คน และผู้ปกครอง จำนวน 131 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากประชากรตามตารางของทาโร ยามาเน่ (Yamane) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการวิจัย ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า
1. ผลการประเมินการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 ในด้านสภาวะแวดล้อม โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เข้มแข็ง รองลงมาคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีระดับการปฏิบัติที่ช่วยให้นักเรียนลดความเสี่ยงกับสภาพปัญหายาเสพติด ในสังคมปัจจุบัน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายการปฏิบัติด้านยาเสพติดของโรงเรียน คือ การป้องกัน เฝ้าระวัง ดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2. ผลการประเมินการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 ในด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในโรงเรียนอย่างเพียงพอ รองลงมาคือโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีแผนงานในการดำเนินกิจกรรมโครงการรณรงค์ชมรมตรงตามยุทธศาสตร์หลักของโครงการ คือ 1) การปลูกจิตสำนึกที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 2) การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน 3) การสร้าง
และพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีผู้รับผิดชอบโครงการ ที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามกิจกรรมของโครงการ
3. ผลการประเมินการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 ในด้านกระบวนการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน เปิดโอกาสให้เยาวชน มีส่วนร่วมในการดำเนินการ รองลงมา คือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีการรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่ผู้เรียน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน มีการสรุปรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการได้ถูกต้องเหมาะสม
4. ผลการประเมินการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564 ในด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ท่านมีความพึงพอใจในการจัดโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน รองลงมาคือ โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ทำให้นักเรียนห่างไกลจากยาเสพติดและลดปัญหาการติดยาเสพติดในสถานศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ผลการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ทำให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นและมีความภาคภูมิใจในตนเองเพิ่มมากขึ้น
ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564
ด้านบุคลากรคือ ผู้บริหารในระดับต่างๆ ยังไม่เห็นความสำคัญของโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ขาดความรู้ความเข้าใจ รวมถึงจำนวนผู้ปฏิบัติและผู้ประสานงานโครงการยังไม่เพียงพอ ทำให้การดำเนินการในหลายส่วนขาดความต่อเนื่อง
ด้านงบประมาณคือ งบประมาณไม่เพียงพอต่อการจัดกิจกรรม รวมถึงความล่าช้าของงบประมาณ ไม่สอดคล้องกับแผนการจัดกิจกรรม
ด้านการบริหารจัดการคือ สถานการณ์โควิด 19 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังขาดการบูรณาการ การขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ยังไม่ครอบคลุม ข้อมูลเชิงลึกด้านยาเสพติดยังมีน้อย อาจทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมโครงการได้ตามสภาพปัญหาที่แท้จริง กิจกรรมที่ดำเนินการยังขาดความต่อเนื่อง ขาดความจริงจังในการปฏิบัติ รวมถึงการนิเทศติดตามประเมินผลการดำเนินงานยังไม่เป็นรูปแบบที่ชัดเจน
ด้านการจัดกิจกรรมคือ ประชาชนยังมีส่วนร่วมกับกิจกรรมน้อย เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่ เป็นเยาวชนที่อยู่ในระบบการศึกษาภาคปกติ
ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางปะหัน ประจำปีงบประมาณ 2564
ด้านบุคลากรคือ ผู้บริหาร/ผู้นำควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการสนับสนุนทรัพยากรในด้านต่างๆ ให้เกิดการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง และการขับเคลื่อนงานควรมีนักจิตวิทยาเข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานด้านจิตใจของเยาวชน
ด้านด้านงบประมาณคือ โดยปกติทุกหน่วยงานมีงบประมาณด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดดังนั้นทุกหน่วยงานควรมีการบูรณาการงบประมาณมาใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งพิจารณาเพิ่มงบประมาณจากส่วนกลางมาใช้ดำเนินงานกิจกรรมโครงการ และควรจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานผู้จัดกิจกรรมโดยตรงเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมเกิดความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว
ด้านการบริหารจัดการคือ ควรมีการบูรณาการ โดยให้ทุกหน่วยงานมีส่วนร่วม เช่น ศึกษาธิการจังหวัด ปกครองจังหวัด แรงงานจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ควรกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจนในหน้าที่รับผิดชอบ แต่ละกิจกรรมโครงการ ควรจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่จริง อย่างเป็นรูปธรรมและควรขยายการดำเนินงานให้ครบทุกพื้นที่ ทุกภาคส่วน เช่น โรงเรียน สถานประกอบการ อย่างต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงขยายสร้างและพัฒนาเครือข่าย โดยเฉพาะเยาวชนที่อยู่ในการศึกษานอกระบบและเยาวชนที่ไม่อยู่ในระบบการศึกษา เพราะเยาวชนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เข้าถึงกิจกรรมโครงการน้อยและเป็นกลุ่มสุ่มเสี่ยงต่อการใช้ ยาเสพติดมากกว่ากลุ่มปกติ
ด้านการจัดกิจกรรมคือ ควรจัดกิจกรรมโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีความหลากหลายทั้งในรูปแบบปกติและรูปแบบออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงเยาวชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มนอกระบบการศึกษา และควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้การป้องกันยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการดำเนินชีวิต