|
|
ชื่อเรื่อง รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1
ชื่อผู้วิจัย สาลินี จงใจสุรธรรม ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 2) ประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศและใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบ ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) จากผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร ด้านการนิเทศการศึกษา และด้านการวิจัยทางการศึกษา ดังนี้ 1) ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ของรูปแบบการนิเทศ จำนวน 7 คน 2) ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินคุณภาพของรูปแบบการนิเทศ จำนวน 7 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาชุดนิเทศการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ของ ชุดนิเทศ จำนวน 7 คน และครูผู้สอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 22 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) สำหรับการประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศ กลุ่มตัวอย่างเป็นครูผู้สอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 36 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา จำนวน 4 เล่ม ประกอบด้วย (1) คู่มือนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (2) ทักษะการแก้ปัญหา (3) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา และ (4) การวัดและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบสอบถามความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการนิเทศและชุดนิเทศ 2) แบบประเมินคุณภาพของรูปแบบการนิเทศ 3) แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจของครู 4) แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครู 5) แบบประเมินทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของครู การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาประสิทธิภาพของชุดนิเทศโดยใช้เกณฑ์ E1/E2 และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 เรียกว่า รูปแบบการนิเทศแบบ ADSERA ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ (1) Analyzing: A วิเคราะห์และวางแผน (2) Developing: D พัฒนาการจัดการเรียนรู้ (3) Supervising: S ดำเนินการนิเทศ (4) Evaluating: ประเมินผล (5) Reporting: R รายงานผล และ (6) Accountability: A เผยแพร่ แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า รูปแบบดังกล่าวมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และมีประโยชน์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก 2) ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาของครูผู้สอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 พบว่า 2.1) ความรู้ความเข้าใจของครูด้านความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา หลังได้รับการนิเทศโดยใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหา สูงกว่าก่อนการนิเทศ โดยใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2) ความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาอยู่ในระดับดี 2.3) ทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนอยู่ในระดับดี และ 3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูที่มีต่อการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการแก้ปัญหาอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย ครูนก : [29 ก.ย. 2565 เวลา 17:47 น.] อ่าน [3310] ไอพี : 118.174.60.84
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 26,860 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,705 ครั้ง
| เปิดอ่าน 50,125 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,326 ครั้ง
| เปิดอ่าน 66,244 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,677 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,554 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,185 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,256 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,615 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,347 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,051 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,917 ครั้ง
| เปิดอ่าน 103,708 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,813 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 11,312 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,611 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,162 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,724 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,245 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|