ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรม

การสื่อสารได้มากกว่าหนึ่งภาษาในโลกทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความจำเป็นมากแค่ไหน นอกจากความชำนาญในภาษาแม่ของตนแล้ว ความสามารถในภาษาอื่น แม้แค่ 1 ภาษา ก็สามารถเพิ่มโอกาสชีวิตของคุณได้ดังสุภาษิตจีนที่ว่า “To learn a language is to have one more window from which to look at the world.” “การเรียนรู้ภาษาคือการมีหน้าต่างอีก 1 บาน สำหรับมองดูโลก”

จาก 7,100 ภาษาของประชากรโลก ภาษาอังกฤษถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 1 ของภาษาที่ถูกใช้และมีการจัดการเรียนการสอนอย่างกว้างขวางใน 118 ประเทศ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในวงการการค้าขาย วิทยาศาสตร์ การบิน คอมพิวเตอร์ การท่องเที่ยว การทูต สื่อและอินเทอร์เน็ตภาษาอังกฤษจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเปิดโลกและการประกอบอาชีพของทุกคน

ประเทศไทยจัดกลุ่มภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศภาษาหนึ่ง เป็นรายวิชาซึ่งถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นรายวิชาที่ถือเป็นยาขมหม้อใหญ่สำหรับคุณครูและนักเรียนทั่วประเทศ เนื่องจากปัญหาด้านคำศัพท์พื้นฐาน อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ไม่สนใจเรียน ไม่ให้ความร่วมมือกับครูผู้สอน ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออก เป็นต้น

จากการศึกษาและสำรวจสภาพปัญหาการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ในรายงานการวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง “การสำรวจความพร้อมในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ (4 ทักษะ)” ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2564 พบว่านักเรียนสามารถทำคะแนนในทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษได้ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนทั้งหมด

ประกอบกับการวิเคราะห์ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองหลังสวน ที่มีจำนวนแบบทดสอบใน Part Reading ถึง 14 ข้อจาก 32 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 43.75 ของจำนวนข้อสอบทั้งหมด มีเพียงนักเรียนร้อยละ 23.15 ที่สามารถทำคะแนนได้สูงกว่าร้อยละ 50

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ดิฉันได้เข้าร่วมพูดคุยในกลุ่ม PLC ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เพื่อปรึกษาถึงแนวทางในการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนจากสมาชิกในกลุ่ม PLC ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารว่า จากเดิมที่ใช้วิธีการสอนแบบ Task-based Learning เพียงอย่างเดียว ให้ลองนำวิธีการสอนแบบ Game-based Learning มาใช้ร่วมด้วย

วิธีการสอนแบบ Task-based Learning หรือการจัดการเรียนรู้โดยการสร้างสรรค์ผลงาน เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เน้น นักเรียนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติงาน โดยนักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม ด้วยตนเองมากกว่าการนังฟังครูผู้สอน โดยนักเรียนจะได้ใช้ความรู้และทักษะที่หลากหลายผ่านกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ทำให้นักเรียนไม่เบื่อหน่ายกับการเรียนและกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา (Willis J. 1996:23)

วิธีการสอนแบบ Game-based Learning หรือ การเรียนรู้ผ่านเกม เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ออกแบบ และสอดแทรกเนื้อหาบทเรียนลงไปในเกม ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ลงมือเล่นและฝึกปฏิบัติในการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยในขณะที่ลงมือเล่น นักเรียนจะได้รับทักษะและความรู้จากเนื้อหาในบทเรียนไปด้วย ขณะเล่นเกมมักมีสถานการณ์จำลองเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนรู้สึกท้าทาย อยากที่จะเล่นซึ่งสามารถใช้ในการดึงดูดความสนใจนักเรียนให้ร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างดี (Squire, K., Giovanetto, L., Devane, B. & Durga, S. 2005:34-42)

เมื่อนำวิธีการสอนทั้ง 2 แบบนี้มาผสานเข้าด้วยกัน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สร้างประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่จำเจ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน ทำให้นักเรียนต้องการร่วมกิจกรรมโดยมีเป้าหมายปลายทางคือการพัฒนาทักษะการพูดและการเขียนนั่นเอง

2. จุดประสงค์ของการดำเนินงาน

2.1 เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนแบบ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565

2.2 เพื่อพัฒนาเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565

2.3 เพื่อเผยแพร่สำหรับผู้ที่สนใจทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา

 

3. ขอบเขตของการดำเนินงาน

3.1 เป้าหมายของการดำเนินงาน

เป้าหมายเชิงปริมาณ : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 70 ได้รับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ

เป้าหมายเชิงคุณภาพ : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ

3.2 ขอบเขตของเนื้อหา

เนื้อหาเรื่อง Present Simple Tense และ Past Simple Tense

3.3 ขอบเขตของระยะเวลา

ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึง 30 กันยายน 2565

4. ประโยชน์ที่จะได้รับ

จากการใช้วิธีการสอนแบบ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning ในการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ทำให้นักเรียน โรงเรียนและชุมชนได้รับประโยชน์ ดังต่อไปนี้

1. ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้นำทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

2. ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจ ตระหนักในประโยชน์และคุณค่าของภาษาอังกฤษ และสร้างเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ

3. ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเพิ่มพูนความรู้ภาษาอังกฤษ ตามความถนัดและความสนใจ

4. ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการอ่าน การเขียน มีความสามารถในการสื่อสารและการนำเสนอภาษาอังกฤษ

5. ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในงานที่ตนเองได้รับมอบหมาย มีทักษะชีวิต สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

5. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน

กระบวนการผลิตนวัตกรรม เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ได้ดำเนินตามขั้นตอน ADDIE Model

1. การวิเคราะห์ (A : Analysis) เป็นขั้นตอนการวิเคราะห์สภาพปัญหา ข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนระบุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ออกแบบ บทเรียน สื่อหรือกิจกรรม

2. การออกแบบ (D : Design) เป็นขั้นตอนการนำข้อมูลที่วิเคราะห์ รวบรวมในขั้นก่อนหน้านี้มาใช้ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อ หรือกิจกรรมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

3. การพัฒนา (D : Development) เป็นขั้นตอนการนำนวัตกรรมที่ได้ออกแบบมาพัฒนาด้านเนื้อหาและเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสม เพื่อปรับปรุง

4. การทดลองใช้ (I : Implementation) เป็นขั้นตอนการนำนวัตกรรมมาทดลองใช้กับผู้เรียนเพื่อหาประสิทธิภาพ

5. การประเมินผล (E : Evaluation) เป็นขั้นตอนการประเมินผลการใช้นวัตกรรมจากผู้เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

6. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์

ผลที่จากการนำวิธีการสอนแบบ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนวิชาภาษาอังกฤษ ไปจัดการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สามารถสรุปผลได้ดังนี้

1. ร้อยละ 78.58 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มีผลคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนเพิ่มขึ้น

2. ร้อยละ 100 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มีเจตคติที่ดีขึ้นในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

3. ได้รับการเผยแพร่วิธีการสอนแบบ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning ผ่านเว็บไซต์โรงเรียนและเว็บไซต์ครูบ้านนอก

4. นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจในผลคะแนนแบบทดสอบของตนเอง

7. ปัจจัยความสำเร็จ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จประกอบด้วยปัจจัยต่อไปนี้

1. ผู้บริหาร ให้ความสำคัญ ส่งเสริมให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนในการพัฒนานวัตกรรมวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

2. ผู้บริหาร ครูแกนนำ โรงเรียนเมืองหลังสวน เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการปรับการเรียนรู้สู่สมรรถนะ ด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) ของสหวิทยาเขตชุมพร 2

3. ครูผู้สอนได้เข้าร่วมชุมชนแห่งการเรียนรู้ภายในโรงเรียนและในสหวิทยาเขตชุมพร 2 เรื่องการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนา

4. ครูผู้สอนได้รับการนิเทศการสอนจากทั้งภายในและภายนอก มีตรวจสอบ กำกับติดตามการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ และแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง

8. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)

จากการพัฒนาวิธีการสอนแบบ Game-based Learning ผสาน Task-based Learning ทำให้ ได้รับประสบการณ์และองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพนักเรียนด้านการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้ประสบผลสำเร็จมากกมาย ได้แก่ วิธีการสอนแบบ Game-based Learning เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เน้น นักเรียนเป็นศูนย์กลางที่น่าสนใจวิธีการหนึ่ง เมื่อนำมาควมรวมกับวิธีการสอนแบบ Task-based Learning จึงเป็นวิธีการที่สามารถเปิดโอกาสให้นักเรียนด้วยตนเองได้ใช้ความรู้และทักษะที่หลากหลายผ่านกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ทำให้นักเรียนไม่เบื่อหน่ายกับการเรียนและกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา นักเรียนสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ระหว่างร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกเหนือไปกว่านั้นคือ เมื่อนักเรียนได้มีโอกาสในการทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายเป็นกลุ่มแล้ว นักเรียนยังได้เรียนรู้การเป็นคนมีน้ำใจ การวางแผนในการทำงาน การยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมกลุ่ม และสามารถทำกิจกรรมกลุ่มนั้นให้สำเร็จได้อย่างน่าสนใจ

โพสต์โดย ครูใหม่ : [29 ก.ย. 2565 เวลา 16:00 น.]
อ่าน [3264] ไอพี : 1.179.230.186
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,786 ครั้ง
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี

เปิดอ่าน 32,723 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ขมิ้นต้น"
ประโยชน์ของ "ขมิ้นต้น"

เปิดอ่าน 188,928 ครั้ง
ตำนาน บ้านบางระจัน
ตำนาน บ้านบางระจัน

เปิดอ่าน 139,589 ครั้ง
ศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรี
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

เปิดอ่าน 15,153 ครั้ง
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม

เปิดอ่าน 12,906 ครั้ง
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด

เปิดอ่าน 54,680 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส

เปิดอ่าน 11,530 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 9,736 ครั้ง
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"

เปิดอ่าน 15,263 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 18,926 ครั้ง
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู

เปิดอ่าน 13,868 ครั้ง
วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย
วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย

เปิดอ่าน 61,843 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี e - market และด้วยวิธี e-bidding
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี e - market และด้วยวิธี e-bidding

เปิดอ่าน 78,811 ครั้ง
ความน่าจะเป็น
ความน่าจะเป็น

เปิดอ่าน 16,326 ครั้ง
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
ประโยชน์ของโยเกิร์ต

เปิดอ่าน 12,309 ครั้ง
ดาวน์โหลด! คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ดาวน์โหลด! คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
เปิดอ่าน 156,515 ครั้ง
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
เปิดอ่าน 34,651 ครั้ง
พู่กันของสง่า มะยุระ รู้ไหมว่าท่านคือใคร
พู่กันของสง่า มะยุระ รู้ไหมว่าท่านคือใคร
เปิดอ่าน 17,413 ครั้ง
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551
เปิดอ่าน 12,567 ครั้ง
แก้อาการนอนไม่หลับโดยใช้เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8
แก้อาการนอนไม่หลับโดยใช้เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ