การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้
และเพื่อแนวทางการบริหารการจัดการเรียนรู้บนฐานวิถีใหม่ ด้วยรูปแบบ COVID Model
ของโรงเรียนอนุบาลกระบี่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย จำนวน 30 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิตามสัดส่วน และจำแนกกลุ่มประชากรออกเป็นชั้นภูมิตามคุณลักษณะที่แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย และกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิโดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือก จำนวน 10 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา ของโรงเรียนอนุบาลกระบี่ เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ การสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า สภาพและปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้บนฐานวิถีใหม่ ด้วยรูปแบบ COVID Model ของโรงเรียนอนุบาลกระบี่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ประกอบไปด้วย 6 ด้าน สภาพการบริหารการจัดการเรียนรู้บนฐานวิถีใหม่ ด้วยรูปแบบ COVID Model โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X Bar =3.91, S.D.=.798) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการจัดการเรียนการสอน มีสภาพการบริหารการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด ( X Bar =4.56, S.D.=.842) รองลงมา ได้แก่ ด้านการพัฒนาครู ( X Bar =3.90, S.D.=.769) ด้านการรับฟังเสียงสะท้อนจากครู ผู้ปกครอง นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา (X Bar =3.86, S.D.=.731) ด้านการประเมินผล
ในการศึกษาแบบฐานวิถีชีวิตใหม่ ( X Bar =3.75, S.D.=.822) ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรใหม่ตามลำดับ ( X Bar =3.72, S.D.=.824) และด้านการบริหารหลักสูตร อยู่ในระดับน้อยที่สุด (X Bar =3.68, S.D.=.803) ตามลําดับ และพบว่าปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้บนฐานวิถีใหม่ ด้วยรูปแบบ COVID Model ของโรงเรียนอนุบาลกระบี่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ โดยรวมมีปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X Bar = 3.79, S.D.=.827)
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านการบริหารจัดการทรัพยากรใหม่ตามลำดับ มีปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด ( X Bar =3.97, S.D.=.848) รองลงมาได้แก่ ด้านการบริหารหลักสูตร ( X Bar =3.94, S.D.=.768) ด้านการประเมินผลในการศึกษาแบบฐานวิถีชีวิตใหม่ (X Bar =3.87, S.D.=.724) ด้านการรับฟังเสียงสะท้อนจากครู ผู้ปกครอง นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา ( X Bar =3.76, S.D.=.876) ด้านการจัดการเรียนการสอน ( X Bar =3.66, SD=.785) และด้านการพัฒนาครู มีปัญหาการบริหารการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับน้อยที่สุด ( X Bar =3.54, SD=.960) ตามลำดับ
สำหรับแนวทางการบริหารการจัดการเรียนรู้ พบว่า การบริหารหลักสูตรควรมีการออกแบบโครงสร้างหลักสูตร โดยคำนึงถึงความแตกต่างของนักเรียนและบริบทของโรงเรียน การประเมินผลในการศึกษา แบบฐานวิถีชีวิตใหม่ เปลี่ยนจากการประเมินผลการเรียน ไปสู่ การประเมินผลเพื่อการเรียนรู้โดยใช้วิธีการที่หลากหลายและนำผลไปต่อยอดการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนการจัดการเรียนการสอน ควรพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสนุกกับการเรียนรู้และอยู่อย่างปลอดภัย การบริหารจัดการทรัพยากรใหม่ตามลำดับ ควรสนับสนุนงบประมาณด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี พัฒนาการเรียนการสอนออนไลน์สำหรับการพัฒนาครูควรจัดอบรม ผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ในการพัฒนานักเรียน และการรับฟังเสียงสะท้อนควรเปิดโอกาสให้ครู ผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชน เสนอความคิดเห็นดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
คำสำคัญ : การเรียนรู้บนฐานวิถีใหม่, รูปแบบ COVID Model