ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษประถมศึกษานราธิวาส เขต 2

ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ประถมศึกษานราธิวาส เขต 2

ผู้วิจัย นางสาวชนัญชิดา คุณสุทธิ์

ปีที่วิจัย 2562 - 2563

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 245 คน ประกอบด้วย ครู จำนวน 10 คน (ไม่นับรวมผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน (ไม่นับรวมผู้แทนครูและผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน) ได้มาโดยการเทียบตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 114 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 114 คน ของโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 ปีการศึกษา 2563 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selecting) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็น 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แบบสนทนากลุ่ม และ 4) แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความถูกต้อง และความเป็นประโยชน์ การวิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) เพื่อนำข้อมูลสารสนเทศที่ได้เทียบกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 ปีการศึกษา 2562 พบว่า สภาพปัจจุบันในการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีการดำเนินการอยู่ในระดับมากทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการส่งเสริมนักเรียน ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา และด้านการส่งต่อนักเรียน ส่วนข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า ครูผู้สอน เห็นว่า การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนยังมีปัญหาในการดำเนินงานที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ส่งผลต่อพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์หลายอย่างของนักเรียนที่เป็นปัญหา ทั้งต่อตัวนักเรียนเอง เพื่อน ครู รวมถึงผู้ปกครอง โดยร่วมกันสรุปพฤติกรรมที่ควรเร่งแก้ไขที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตัวนักเรียนค่อนข้างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนของนักเรียน ได้แก่ การแต่งกายผิดระเบียบ การมาสาย หนีเรียน และแสดงกิริยาไม่ดีต่อครู ซึ่งผู้ร่วมสนทนาทุกคนมองว่าการพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่จะนำมาใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะเป็นระบบที่ทุกคนได้มีส่วนช่วยสอดส่องดูแลช่วยเหลือนักเรียนทั้งในด้านการเรียน สุขภาพ และพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่าง ๆ ช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูที่ปรึกษากับนักเรียนและช่วยให้ครูรู้จักนักเรียนของตนเองมากขึ้นด้วย

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 ปีการศึกษา 2562 พบว่า รูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการบริหาร เงื่อนไขความสำเร็จ และแนวการประเมิน ซึ่งกระบวนการบริหารงาน มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นสำรวจ (S : Survey) ขั้นสร้างความตระหนัก (A : Awareness) ขั้นนำสู่การปฏิบัติ (P: Process) และขั้นประเมินความสำเร็จ (ES: Evaluate Success) ผลการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิพบว่า รูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม มีความเหมาะสม ความถูกต้อง และความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ประโยชน์ได้ คิดเป็นร้อยละ 100

3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 ปีการศึกษา 2563 พบประเด็นดังนี้

3.1 โรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 มีการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนได้ครอบคลุมทั้ง 5 กิจกรรม โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน รองลงมาคือด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหา และการส่งต่อนักเรียน

3.2 นักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ที่ได้รับการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามรูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วมมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รวมเฉลี่ย 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ในปีการศึกษา 2563 เฉลี่ยร้อยละ 62.16

3.3 นักเรียนและโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ได้รับรางวัลจากการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในปีการศึกษา 2563 – 2564 ได้รับรางวัล จำนวน 24 รายการ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ มีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 รายการ

4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 พบประเด็นดังนี้

4.1 ผลการประเมินยืนยันด้านความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความถูกต้องครอบคลุมของรูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน โดยรวมพบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D. =0.51)

4.2 ความพึงพอใจของครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนโรงเรียนนิคมพัฒนา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.48, S.D. = 0.50)

โพสต์โดย นิดา : [22 ก.ย. 2565 เวลา 06:14 น.]
อ่าน [65297] ไอพี : 118.172.121.94
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,511 ครั้ง
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน

เปิดอ่าน 12,043 ครั้ง
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น

เปิดอ่าน 21,326 ครั้ง
รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

เปิดอ่าน 2,780 ครั้ง
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS

เปิดอ่าน 11,184 ครั้ง
ร้อนนี้กินอย่างไร เย็นทั้งกาย สุขทั้งใจ
ร้อนนี้กินอย่างไร เย็นทั้งกาย สุขทั้งใจ

เปิดอ่าน 11,752 ครั้ง
รู้จัก โรคเอสแอลอี
รู้จัก โรคเอสแอลอี

เปิดอ่าน 12,818 ครั้ง
กูเกิลเจ๋งทดลอง"รถแห่งอนาคต Google Car "วิ่งได้เองบนท้องถนน
กูเกิลเจ๋งทดลอง"รถแห่งอนาคต Google Car "วิ่งได้เองบนท้องถนน

เปิดอ่าน 6,293 ครั้ง
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 31,961 ครั้ง
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด

เปิดอ่าน 28,993 ครั้ง
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม?  วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม? วิชาที่คนไม่เข้าใจ

เปิดอ่าน 12,589 ครั้ง
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน

เปิดอ่าน 11,242 ครั้ง
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม

เปิดอ่าน 81,914 ครั้ง
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ

เปิดอ่าน 15,331 ครั้ง
พระจันทร์ยิ้มเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.51
พระจันทร์ยิ้มเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.51

เปิดอ่าน 23,632 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม วันพ่อ
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม วันพ่อ

เปิดอ่าน 23,164 ครั้ง
ฟักทอง เต็มเปี่ยมด้วยประโยชน์
ฟักทอง เต็มเปี่ยมด้วยประโยชน์
เปิดอ่าน 30,736 ครั้ง
การถ่ายภาพมาโคร MACRO PHOTOGRAPHY
การถ่ายภาพมาโคร MACRO PHOTOGRAPHY
เปิดอ่าน 855 ครั้ง
เปิดรายละเอียดประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง คุ้มไหม ?
เปิดรายละเอียดประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง คุ้มไหม ?
เปิดอ่าน 10,212 ครั้ง
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์
เปิดอ่าน 23,041 ครั้ง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง
ผอมสวยด้วยสมุนไพร..อันตรายที่ควรระวัง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ